ตัวเลขบนตราชั่ง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงค่อนข้างหวาดกลัวไม่น้อยไปกว่าผี โดยถ้าชั่งออกมาแล้วมันเป็นไปตามที่คาดหวังก็ดีไป แต่ถ้าชั่งออกมาแล้วเกินกว่ามาตรฐานไปก็ปวดใจแทบบ้า แต่เธอเคยได้ยินกันมาบ้างมั้ยว่าคนเราไม่ควรให้ความสำคัญกับน้ำหนักบนตราชั่งมากเกินไป นั่นก็เพราะน้ำหนักของเรา มันไม่ได้คงที่ตลอดเวลานะ Gangbeauty บอกเลยว่าชั่งน้ำหนัก 13 ครั้งใน 1 วัน ตัวเลขที่ได้ แตกต่างกันหมดเลย โดยผลการทดลองนี้มาจาก Alexandra Caspero ในเวลาเพียง 12 ชั่วโมงเท่านั้น!
ครั้งแรก ในเวลา 05.00 น.
www.womenshealthmag.com
ปกติแล้ว เธอมีน้ำหนักอยู่ประมาณ 127-130 ปอนด์ หรือประมาณ 57-59 กก. แต่เมื่อคืนเธอเล่าว่า เธอไปทานข้าวกับเพื่อนๆ มา ทั้งไวน์ ทั้งอาหารสารพัดสารเพ เช้าวัดถัดมา น้ำหนักของเธอก็เลยขึ้นมาอยู่ที่ 133 ปอนด์ หรือประมาณ 60 กก. เลยทีเดียว นี่ขนาดว่าช่วงเช้าหลังตื่นนอน เป็นช่วงเวลาที่น้ำหนักของเราเบาที่สุดนะเนี่ย
ครั้งที่ 2 ในเวลา 06.00 น.
www.womenshealthmag.com
หลังจากเธอดื่มน้ำ จิบกาแฟยามเช้า และมีการขับถ่ายออกไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้ำหนักของเธอจะลดลงเกือบ 2 ปอนด์ จาก 60 กก. เหลือ 59 กก. ในทันที
ครั้งที่ 3 ในเวลา 07.00 น.
www.womenshealthmag.com
หลังจากเธอนั่งทำงานในออฟฟิศสักพักหนึ่ง น้ำหนักของเธอก็มีการลดลงอีก 0.4 ปอนด์ ทั้งๆ ที่แค่นั่งเฉยๆ เท่านั้นเอง
ครั้งที่ 4 ในเวลา 07.45 น.
www.womenshealthmag.com
ก่อนเธอจะขึ้นชั่งน้ำหนักในรอบนี้ เธอได้ดื่มน้ำเปล่าเข้าไป 1 แก้วใหญ่ และนี่คือตัวเลขของน้ำหนัก มันขึ้นมา 0.6 ปอนด์เลยทีเดียว
ครั้งที่ 5 ในเวลา 09.20 น.
www.womenshealthmag.com
หลังจากเธอเล่นโยคะร้อนเสร็จเรียบร้อย จาก 132 ปอนด์หลังดื่มน้ำ ก็ลดเหลือเพียงแค่ 131.2 ปอนด์ ซึ่งนี่ก็กลายเป็นน้ำหนักตัวที่น้อยที่สุดของวันนี้ เท่ากับการเล่นโยคะร้อนของเธอ ช่วยเผาผลาญแคลอรีไปได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ครั้งที่ 6 ในเวลา 10.00 น.
www.womenshealthmag.com
จบโยคะร้อน เธอก็ไปวิ่งจ๊อกกิ้งต่ออีกสักพัก เธอลองชั่งน้ำหนักทั้งแบบใส่รองเท้า และถอดรองเท้าก็พบว่ารองเท้านั้นมีส่วนทำให้น้ำหนักขึ้นได้จริงๆ และเห็นได้ชัดว่าการวิ่งจ๊อกกิ้ง ช่วยทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปอีก 0.2 ปอนด์
ครั้งที่ 7 ในเวลา 10.50 น.
www.womenshealthmag.com
หลังจากการออกกำลังกายเมื่อเกือบ 1 ชั่วโมงที่แล้ว เธอไม่ได้ทานอะไรเลย กลับมาชั่งน้ำหนักอีกที ปรากฎว่าน้ำหนักขึ้นเป็น 132.8 ปอนด์เฉยเลย แต่ความแตกต่างคือรู้สึกกระชับ และดีกว่าตอนที่น้ำหนักน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ
ครั้งที่ 8 ในเวลา 12.00 น.
www.womenshealthmag.com
มื้อเที่ยงของเธอ ประกอบไปด้วย โอ๊ตมีล น้ำชา สับปะรด ทานจนอิ่ม แน่นกระเพาะ แต่มาชั่งน้ำหนักอีกที ดันลดลง จาก 132.8 ปอนด์ เหลือเพียง 132.2 ปอนด์เท่านั้น
ครั้งที่ 9 ในเวลา 13.00 น.
www.womenshealthmag.com
ช่วงหลังมื้อเที่ยง เธอดื่มน้ำและจิบชาพร้อมอาหารว่างไปอีกเล็กน้อย แต่ปรากฎว่าน้ำหนักขึ้นมาอีกแล้ว คราวนี้จาก 132.2 ปอนด์ พุ่งขึ้นเป็น 133.4 ปอนด์เลยทีเดียว
ครั้งที่ 10 ในเวลา 14.30 น.
www.womenshealthmag.com
ก่อนที่เธอจะมาชั่งน้ำหนักในรอบนี้ เธอเข้าห้องน้ำ ถ่ายท้องเรียบร้อย แต่น้ำหนักของเธอกลับไม่ลดลงอย่างที่คิด แถมยังเพิ่มขึ้น ความรู้สึกตอนนี้ไม่เหมือนตอนออกกำลังกายใหม่ๆ อีกแล้ว
ครั้งที่ 11 ในเวลา 16.00 น.
www.womenshealthmag.com
ก่อนช่วงเย็น เธอค่อนข้างหิว จึงทานซุปกับแซนด์วิชเข้าไป แต่น้ำหนักกลับไม่เพิ่มขึ้น คงที่ เท่ากับที่ชั่งครั้งล่าสุดเป๊ะ
ครั้งที่ 12 ในเวลา 17.00 น.
www.womenshealthmag.com
ทำไปทำมา เหมือนซุปกับแซนด์วิชจะเริ่มส่งผล เพราะน้ำหนักของเธอพุ่งทะยานขึ้นไปอีกแล้ว รอบนี้เพิ่มขึ้นมา 1.8 ปอนด์เลยทีเดียว
ครั้งที่ 13 ในเวลา 18.15 น.
www.womenshealthmag.com
จนถึงช่วงหกโมงเย็น แม้เธอจะไม่ได้ทานอะไรเข้าไปอีก แต่น้ำหนักกลับขึ้นเอาๆ ไม่ยอมลด กลายเป็นช่วงที่น้ำหนักมากที่สุดของเธอไปแล้ว จากตอนตื่นจนถึงตอนเย็น น้ำหนักเพิ่มซะน่ากลัวเลยจริงๆ
เห็นมั้ยว่าน้ำหนักมีขึ้นมีลงตลอดเวลา
แค่ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายวันละ 30 นาที นานๆ ชั่งทีก็พอเนอะ!