หน้าลอกใช้อะไรดี? เป็นคำถามสุดฮิตของหน้าหนาว ช่วงอากาศใกล้หน้าหนาวมักจะมีลมหนาวเย็นแห้งๆ ซึ่งถือเป็นปัญหาต่อผิวหน้าเรามากๆค่ะ เพราะจะทำให้ผิวหน้า-ตัวของเราแห้งง่ายมากๆ ถึงแม้เราจะทาครีมบำรุงแล้วแต่ก็ยังคงมีปัญหาผิวแตกแห้ง ยิ่งบริเวณส่วนหน้าเราด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เราขาดความมั่นใจมากๆเลยค่ะ
เราจึงได้นำเอาวิธีรับมือกับปัญหาจมูกลอกมาแนะนำค่ะ โดยมีหลากหลายวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยรักษาและป้องกันผิวจมูกของคุณให้ชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง ไม่ต้องทนกังวลใจเมื่อส่องกระจกแล้วเห็นว่าจมูกเราลอก หรือไม่ต้องเสียความมั่นใจกับผิวจมูกที่แห้งลอกของเราอีกต่อไป จะได้ผิวสวยกันทุกวันไม่ว่าทุกฤดูไหน
1. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์
สาวๆ หลายคนคงจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ติดบ้านกันไว้อยู่แล้ว เมื่อรู้สึกว่าอากาศแห้งและเกรงว่าจมูกจะลอกแล้วหล่ะก็ ให้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเก็บความชุ่มชื้นของผิวเอาไว้ ก็จะช่วยให้ผิวไม่แห้ง จมูกไม่ลอก หรือถ้าจมูกลอกแล้วก็ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อลดปัญหาผิวแห้งลอกได้เช่นกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์มอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็มีวางจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อ แต่ครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
2. ทาด้วยเบบี้ออยล์
การทาเบบี้ออยล์ก็ช่วยแก้จมูกลอกได้เช่นกัน โดยก่อนนอนก็เอาเบบี้ออยล์มาทาและนวดเบาๆ บริเวณผิวจมูกที่ลอก ทำเป็นประจำทุกวันจนกว่าจะหาย วิธีนี้ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวลอกให้กับคุณได้แบบง่ายๆ เลยหล่ะ เพราะผิวที่ทาเบบี้ออยล์จะไม่แห้งนั่นเอง
3. ทาด้วยน้ำมันมะพร้าว
คุณผู้อ่านคงจะรู้จักน้ำมันมะพร้าวกันเป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งเราก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เมื่อซื้อมาหรือมีติดบ้านไว้แล้ว เราก็เอามาทาบริเวณผิวจมูกที่ลอกเป็นประจำทุกคืน น้ำมันจากธรรมชาตินี้ก็จะช่วยแก้จมูกลอกได้ และผิวหน้ายังรู้สึกกระชับอีกด้วย
4. ทาด้วยวาสลีน (ปิโตรเลี่ยมเจล)
เพื่อนๆ คงจะทราบกันมาบ้างแล้วว่าวาสลีนนั้นเมื่อปากของเราแห้งแตกก็เอามาทา ก็จะช่วยแก้ริมฝีปากแห้งได้ และถ้าคุณเจอกับปัญหาจมูกลอกแล้วหล่ะก็ วาสลีนก็ช่วยคุณได้เช่นกัน โดยทาบางๆ ทุกคืนก่อนนอน จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้ง ไม่ลอกเป็นขุยแล้วหล่ะ แนะนำให้ทาบางๆ นะเพราะหากทาหนาเกินไปมันจะเหนอะหนะนิดนึงค่ะ
5. อย่าแกะผิวที่ลอก
การที่คุณมีผิวจมูกแห้งลอกนั้นย่อมอยากจะแกะมันออกไปจากผิวหน้า แต่ทางที่ดีคุณไม่ควรจะแกะมันออก เพราะอาจทำให้เกิดเป็นแผลเลือดออก และทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ สิ่งที่ควรทำคือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งเป็นประจำ โดยทาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำให้ผิวไม่แห้งนั่นแหล่ะค่ะ และปล่อยให้ผิวที่ลอกนั้นหลุดออกไปเอง
6. ทาด้วยว่านหางจระเข้ + น้ำมันอัลมอนด์
เราเคยได้แนะนำการใช้ว่านหางจระเข้ทาหน้าเพื่อช่วยรักษาหน้าไหม้แดดกันมาแล้ว คราวนี้เราจะใช้ว่านหางจระเข้มาช่วยแก้จมูกลอกกันบ้าง โดยการเอาว่านหางจระเข้สดมาปอกเปลือกออกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นก็บดเนื้อเจลให้ละเอียด เอาผสมกับน้ำมันอัลมอนด์แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ใช้ทาก่อนนอนทุกคืน ก็จะช่วยรักษาจมูกลอกให้ค่อยๆ หายได้
7. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน
สำหรับโฟมล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่คุณใช้นั้นอย่าใช้แบบที่แรงๆ นะคะ เพราะนั่นจะทำให้ปัญหาผิวลอกมีความรุนแรงมากกว่าเดิม เพราะผิวจะแห้งยิ่งขึ้นเนื่องจากความชุ่มชื้นที่ผิวถูกดึงออกไป น้ำมันตามธรรมชาติบริเวณผิวหนังจะถูกชะล้างออกไปนั่นเอง ฉะนั้นควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน และมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ด้วยจะดีมาก
8. ใช้ฮาดะลาโบะขวดสีขาว
สำหรับผลิตภัณฑ์ฮาดะลาโบะนั้นก็มีหลายสูตรให้เราได้เลือกใช้ และคุณสมบัติของแต่ละสูตรนั้นก็แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าคุณประสบปัญหาจมูกลอกแล้วหล่ะก็ สูตรที่เหมาะกับคุณที่สุดก็คือฮาดะลาโบะขวดสีขาวค่ะ เพราะสูตรนี้เหมาะกับคนผิวแห้งมาก หน้าเป็นขุยแห้งลอกนี่ใช้ทาแล้วจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ดีมากๆ และผิวหนังของจมูกที่ลอกก็จะหายเป็นปกติได้ไม่ยาก
9. ไม่อาบน้ำนานและอย่าล้างหน้าด้วยน้ำร้อนเกินไป
จะว่าไปแล้วเมื่อถึงหน้าหนาวอากาศที่หนาวเย็นจับใจเราก็ย่อมอยากจะอาบน้ำอุ่นๆ ใช่มั๊ยหล่ะ แต่การอาบน้ำอุ่นนั้นบางคนก็เร่งอุณหภูมิเอาเสียจนร้อนมาก ซึ่งการที่เราอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำที่ร้อนเกินไป จะทำให้น้ำมันที่ผิวถูกชะล้างขจัดออกไป ทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น (หลายคนคงเคยมีประสบการณ์แบบนี้กันมาบ้างแล้ว) ผิวเป็นขุยขาวๆ ไม่ชุ่มชื้น ฉะนั้นการล้างหน้าหรืออาบน้ำควรใช้น้ำอุณหภูมิแบบไม่เย็นไม่ร้อนจะดีกว่า ในระหว่างวันไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป วันละ 2 ครั้งก็พอละสำหรับการล้างหน้า และการอาบน้ำนานเกินไปก็จะทำให้น้ำมันที่ผิวถูกชะล้างออกไปจนผิวสูญเสียความชุ่มชื้นเช่นกัน วิธีนี้พูดรวมๆ ทั้งการดูแลผิวกายและผิวหน้าด้วยเลย เพื่อที่ผิวของเราจะได้ไม่แห้งลอกนั่นเองค่ะ