ทางเดินปัสสาวะเป็นระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดของเสียและสารพิษ ซึ่งสิ่งที่ผู้หญิงส่วนมากไม่รู้กันเลยคือเรามักมีปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าผู้ชายมากนะ โดยเฉพาะ 4 อาการต่อไปนี้ Gangbeauty ขอแนะนำให้ทำความรู้จักเอาไว้ มันมาเยือนเราบ่อยแน่นอน ไม่ต้องห่วง!
1. ปัสสาวะเล็ด
commons.wikimedia.org
ความจริงแล้วอาการปัสสาวะเล็ดเป็นอาการปกติที่พบเจอได้บ่อยของผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดน้อยลง กล้ามเนื้อทางเดินปัสสาวะก็อ่อนแรงตามลงไปด้วย แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และใช้แรงกายหนักมากอย่างการไอ จาม หัวเราะ ยกของ หรือออกกำลังกายหนักด้วยเช่นกัน เพราะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอยู่ในภาวะที่เครียดตึงนั่นเอง ทางแก้คือต้องเพิ่มการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไว้ในกิจวัตรประจำวัน หรือถ้าอาการหนักมากก็อาจต้องใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอดหรือผ่าตัดเพื่อพยุงกระเพาะปัสสาวะแทน
2. ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
www.maxpixel.net
เชื้อที่ว่าคือเชื้อที่ชื่อว่า “อีโคไล” ซึ่งเป็นเชื้อที่มาจากอุจจาระของเราเองนั่นล่ะ เหตุผลที่มันสามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะของเราได้ ก็เพราะลำไส้ใญ่กับท่อปัสสาวะของเพศหญิงอยู่ใกล้กันมาก แบคทีเรียจึงถูกส่งผ่านต่อกันง่าย ยิ่งถ้าเรามีคู่นอนเยอะ มีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไป ร่วมกับการพักผ่อนน้อย ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่คอยช่วยสร้างกรดมาดูแลช่องคลอดจะลดต่ำลง ทำให้เรามีโอกาสติดเชื้อเยอะมากขึ้นกว่าเดิม จริงอยู่ว่าอาการฉี่แสบ ฉี่ขัด รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำตลอดเวลาไม่ใช่อาการที่น่ากลัวมากนักสำหรับใครหลายคน แต่หากปล่อยให้เป็นบ่อย ปล่อยให้เรื้อรัง เชื้อโรคจะแพร่กระจายไปถึงไต และกลายเป็นความเสียหายถาวรได้เลยนะ
3. กระเพาะปัสสาวะทำงานหนักไป
pxhere.com
ถ้าวันๆ นึงเรารู้สึกว่าปวดปัสสาวะบ่อย ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยทั้งที่ไม่ได้ดื่มน้ำมากขนาดนั้น อาจเกิดจากการที่ร่างกายมีภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานหนักเกินไป กล้ามเนื้อในกระเพาะเกิดการหดตัวอย่างไม่ตั้งใจ วิธีที่จะช่วยเยีวยาอาการนี้ได้คือการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเพื่อป้องกันปัสสาวะเล็ด และถ้ารู้สึกว่าปวดปัสสาวะ อาจจะต้องพยายามอั้นมันให้ได้ ไปเข้าห้องน้ำให้ช้าหน่อย ให้กล้ามเนื้อได้ทำงานบ้าง หรือถ้ายังไม่ได้ผล คุณหมออาจจะต้องใช้ยาในการรักษาร่วมด้วย
4. กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง
pxhere.com
ถ้ามีประวัติเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย วันนึงก็อาจจะแปลงร่างมาเป็นแบบเรื้อรังแทนก็ได้ หากมาถึงขั้นนี้คือไม่ต้องรอติดเชื้ออีโคไลแล้วนะ เพราะกระเพาะปัสสาวะเป็นแผลไปแล้ว ทางรักษาเพียงอย่างเดียวคือต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ หรืออาจจะใช้การส่องกล้องเข้าไปทางท่อปัสสาวะ และต้องเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน อาหารที่เป็นกรด ทานยาตามที่คุณหมอสั่งให้สม่ำเสมอ ออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานด้วยก็จะดีมาก
อาจจะดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเรื้อรังได้ไม่ยากเลยล่ะ!