ผู้หญิงสมัยนี้ รูปลักษณ์ภายนอกสำคัญกว่าไหนๆ ดั้งแหมบก็ไม่อายที่จะรีบไปหาหมอ กรามบานก็ไม่อายที่จะไปโชว์ให้หมอเอาเข็มจิ้ม แต่พอเป็นเรื่องของภายในกลับเขินหมอซะงั้น ซึ่งมันไม่ถูกเลยนะเธอ Gangbeauty ว่าภายในมากกว่าอีกที่เธอควรต้องใส่ใจ ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง แล้วโรคที่ทำให้เธอทั้งหลายอายหมอก็ไม่ใช่โรคเบาๆ มัวแต่อายหมอน่ะ อันตรายหนักทั้งนั้นเลย พวกนี้เป็นโรคท๊อปฮิตที่ผู้หญิงชอบเก็บไว้ ไม่ยอมไปหาหมอ จะมีตรงกับที่เธอเป็นอยู่แล้วไม่กล้าบอกหมอมั่งมั้ยนะ เช็คดูซิ
1. เชื้อราในช่องคลอด
คัน แสบ ทำให้รำคาญได้ทั้งวัน แต่ฉันยังไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวหมอจำหน้าได้ว่าฉันเป็นคนสกปรก เธอจ๋า เรื่องแบบนี้ถ้าสะอาดเกินไปก็เป็นแบบเธอได้เหมือนกันนะ เพราะพวกที่สะอาดจัดก็ชอบใช้น้ำยาทำคามสะอาดเฉพาะจุดซ่อนเร้นใช่มั้ย ไอ้น้ำยานี่แหละตัวดีเลย มันจะเข้าไปทำลายกรดแลคติคที่ดูแลช่องคลอดของเราอยู่แบบหายเกลี้ยง แบคทีเรียก็วิ่งเล่นสบายเลยทีนี้ ในขณะเดียวกันจากความสกปรกมันก็เป็นไปได้ อับชื้นมาก ใส่กางเกงแน่นมากก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน
เลิกทำ: ใส่กางเกงแน่นๆ สเตย์รัดๆ ตากผ้าเช็ดตัว กางเกงลิงไว้ในห้องน้ำ เวลาเข้าห้องน้ำก็ชอบใช้สายฉีด ฉีดแบบทะลุผุพัง หรือพอคันก็กินยาแก้อักเสบ กินยาฆ่าเชื้อบ่อยเกินไป
ควรทำ: ถ้าเริ่มคันนิดๆ กินโยเกิร์ตเพิ่มแลคโตบาซิลลัส เวลาล้างน้องสาว ใช้น้ำสะอาดแล้วเช็ดให้แห้งก็พอ เวลาซื้อกางเกงลิงก็เลือกแบบผ้าฝ้าย ระบายอากาศได้ดีกว่าแบบอื่น
2. เริม
คนส่วนใหญ่ยังคิดอยู่ตลอดว่าการเป็นเริม ที่มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสๆ รวมกันเป็นกระจุก เจ็บและคัน ติดมาจากอวัยวะเพศกันอย่างเดียว ก็เลยพาลเขิน พาลอาย เป็นทีก็ไม่กล้าสู้หน้าใคร เขินแม้กระทั่งหมอ โดยเฉพาะมาเป็นตรงริมฝีปากนี่มันน่าอายจริงๆ เธออาจต้องทำความเข้าใจใหม่นิดนึงนะ เริมตรงปากกับตรงอวัยวะเพศ ความจริงแล้วมันคือเชื้อคนละตัว! วิธีรักษาก็ตามอาการ ปวดก็กินยาแก้ปวด ทายาเข้าไป เพราะมันไม่มีทางไหนรักษาหาย เมื่อไหร่ร่างกายอ่อนแอ มันก็มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้จ้ะ
เลิกทำ: เหล้าเบียร์ ใครเคยเป็นไปแล้วรอบนึง จะกลับมาเป็นอีกง่ายมากถ้าดื่มหนัก ดื่มจัด เสื้อผ้า แก้วน้ำ ทางที่ดีก็ใช้แยกกับคนอื่นดีกว่า ป้องกันไว้ก่อน
ควรทำ: ทำตัวให้แข็งแรงเข้าไว้ นอนพอ ไม่เครียด ใส่เสื้อผ้าไม่อับไม่แน่น ล้างมือให้สะอาด ถ้าเมื่อไหร่จะมีเซ็กซ์ อย่าลืมถุงยาง กันได้ทั้งโรค ทั้งลูก
3. ริดสีดวง
ก็ตลกชอบเอาไปล้อเล่นกัน พอริดซี่ดวงแล้วก็ขำกันใหญ่ เลยพาลทำให้เวลาเป็นขึ้นมาจริงๆ ไม่กล้าไปหาหมอ อายค่ะ กลัวโดนขำ ซึ่งมันไม่ใช่อะเธอ ไม่น่าขำเลย ใครก็เป็นกันได้ เพราะทุกคนเกิดมาล้วนมีเนื้อเยื่อริดสีดวงติดตัวมาทุกคน! โดยอาการก็นั่นแหละ ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายไม่ออก เจ็บก้น ทำอะไรก็ลำบากลำบน นั่งก็โอย ลุกก็โอยไปหมด เพราะเส้นเลือดดำมันอักเสบจากการท้องผูก ถ่ายยาก เบื้องต้นให้นั่งแช่น้ำอุ่นวันละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้งจะช่วยทำให้หัวริดสีดวงยุบลงได้ มียากินให้หายอยู่ ปรึกษาเภสัช ไม่ก็หาหมอซะนะ
เลิกทำ: นั่งนาน ยืนนาน หรือใส่กางเกงรัดๆ กินของย่อยยาก อึยาก กินน้ำน้อย
ควรทำ: กินผัก ผลไม้ให้เยอะเข้าไว้ น้ำเปล่ากินเข้าไป ท้องจะได้ไม่ผูก การออกกำลังกายก็สำคัญ ลำไส้จะได้ทำงานดีขึ้น
4. ตัวเหม็น กลิ่นตัวแรง
อันชะนี ถ้างามแต่รูป จูบแล้วเหม็นขมไปถึงคอ รู้ถึงไหนก็อายถึงนั่นค่ะ ฉีดน้ำหอมวันละครึ่งขวดก็ไม่ช่วย แหงล่ะ มันมาจากภายใน ไม่ใช่ภายนอกนี่เธอ ยอมรับความจริงซะเถอะ ว่ามันเหม็น ซึ่งมันก็เกิดได้จากหลายอย่าง ไม่ใช่ว่าเธอสกปรกตัวเลยเหม็น แต่ถ้าภายในมีปัญหา ก็อาจสร้างกลิ่นเหม็นได้เช่นกัน สมมติกลิ่นปาก ก็อาจจะมาจากฟันผุ หรือต่อมทอนซิลอักเสบ ส่วนกลิ่นตัวก็อาจเป็นเพราะต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติ แบคทีเรียก็เลยออกมาเติบโตกันใหญ่เพราะเหงื่อมีเยอะเกินไป หรือกลิ่นเท้าแรงๆอาจมีแบคทีเรียอยู่ตามง่ามนิ้ว หรือฝ่าเท้าก็ได้
ปาก: พกน้ำยาบ้วนปาก แปรงฟันบ่อยๆ หาหมอฟันบ้าง พวกอาหารรสจัดก็เพลาๆลงหน่อยเน้อ
ตัว: สบู่ที่ผสมยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็ลองซื้อมาใช้ดู อย่าไปเน้นแค่ผิวออร่ากระจ่างใส เสื้อผ้าก็เลือกที่มันโปร่งสบายดูบ้าง
เท้า: รองเท้าให้ทำความสะอาดบ่อยๆ อย่าใช้ถุงเท้าซ้ำวัน ตัดเล็บ ใส่รองเท้าให้ถูกไซส์ รวมถึงลองใช้ยารักษาสิวมาทาที่ฝ่าเท้าดู ยาพวกนี้ช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ดี
แม้รูปจะไม่งาม แต่ถ้าภายในสะอาด ใครอยู่ใกล้ ยังไงก็ติดใจ!