หลายคนคงทราบกันดีว่าน้ำมันที่ใช้สำหรับปุงอาหารนั้นมาจากทั้งพืชและสัตว์ ซึ่งได้มาจากส่วนที่เป็นไขมันต่างๆ นั้นเอง แต่ความจริงแล้วยังมีเรื่องราวอีกมาหมายที่หลายคนยังคงไม่เข้าใจจริงๆ และบางครั้งก็เป็นการเข้าใจผิดกันมาโดยตลอด
วันนี้ Gang Beauty จึงจะพาคุณมาชี้ความกระจ่างให้ได้ทราบกันแล้วว่า.. มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรทำความเข้าใจซะใหม่ เกี่ยวกับน้ำมันทำอาหารที่เรารับประทานกันแทบทุกมื้อ โดยบทความจากเว็บไซต์ www.fitjunctions.com ระบุว่า
สิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจผิด 3 ข้อเกี่ยวกับน้ำมันพืช คือ..
1. น้ำมันพืชกินแล้วอ้วน
2. น้ำมันมะกอกใช้ปรุงอาหารดีมาก ไม่อ้วน
3. ไขมันอิ่มตัว ไม่ดี อ้วน
แต่ความเป็นจริงที่ควรทำความเข้าใจกันใหม่ คือ ไม่ว่าจะน้ำมนอะไรก็ตาม ถ้าการรับประทานในแต่ละวันไม่เกินกว่าแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการนั้น คุณก็ไม่อ้วน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมที่ได้รับการกลั่นหรือผลิตจากประเทศไหนๆ หากคุณกินเยอะไปก็อ้วนอยู่ดี และ ไขมันอิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัว มีผลต่อสุขภาพก็จริง แต่หากกินไม่เกิน ก็ไม่อ้วนเช่นกัน
ไขมันแต่ละอย่างมีหน้าที่และคุณสมบัติที่ต่างกัน
– หากต้องการทำอาหารที่ใช้ไฟแรงๆ ควรใช้ไขมันที่มีความคงที่สูง เช่น น้ำมันมะพร้าว
– หากทำอาหารด้วยไฟที่ไม่แรงมาก และไม่ได้ผัด หรือทอดนานๆ ใช้น้ำมันอื่นได้
– หากต้องการนำมาทำน้ำสลัด น้ำมันมะกอกจะเหมาะ
– ส่วนน้ำมันพืชชนิดต่างๆ เช่น น้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง ดอกทานตะวัน ข้าวโพด ควรบริโภคแต่น้อย
อาหารที่มีไขมันดี เป็นส่วนประกอบและควรทาน
– ปลาทะเล เช่น แซลมอน ปลาทู
– อโวคาโด
– เมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง
– ถั่ว เช่น แอลมอน วอลนัท
– น้ำมันมะกอก เหมาะกับทำน้ำสลัด
– น้ำมันมะพร้าว เหมาะกับปรุงอาหาร
จะเห็นได้ว่าพฤติกรรม และปริมาณการกินเป็นสิ่งสำคัญ หากรู้จักบริโภคแบบพอดีและพอเหมาะกับสิ่งที่ร่างกายต้องการ คุณก็จะไม่อ้วน และควรออกกำลังดูแลรักษาสุขภาพควบคู่กันไปด้วยสิ่งสำคัญคือการเลือกใช้น้ำมันให้เหมาะสมกับประเภทการปรุงอาหารด้วย