อาการผิดปกติของรอบเดือนผู้หญิงนั้น สามารถเกิดขึ้นกับสาวๆทุกคนได้ บางคนอาจมีประจำเดือนมามาก มาน้อย มาช้า หรืออาการทางร่างกาย ปวดท้อง เวียนศีรษะ เหนื่อยล้า อ่อนเพลียมาก หน้าซีด ตัวซีด แต่วันนี้ gangbeauty มาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความผิดปกติของประจำเดือน ที่สาวๆมักสงสัยแต่ไม่กล้าถาม หรือไม่กล้าไปปรึกษาแพทย์มาให้อ่านกันค่ะ !!!
1. มีประจำเดือนมามากและนานหลายวันผิดปกติหรือไม่
ปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีประจำเดือนนาน 7 วัน ซึ่ง 2 วันแรกจะมีปริมาณค่อนข้างมาก แต่ถ้ามีประจำเดือนนานกว่า 8 วันและยังมีปริมาณมากแม้จะเลย 2 วันแรกไปแล้ว ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย เพราะอาจเกิดจากเนื้องอกในบริเวณมดลูก ซึ่งต้องรักษาโดยการผ่าตัด
2. มีประจำเดือนมาน้อยมากผิดปกติหรือไม่
ถ้าประจำเดือนมาสม่ำเสมอ แม้จะมีน้อย ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะแสดงว่าร่างกายมีการตกไข่ตามปกติ แต่ที่มีปริมาณน้อยนั้น มักพบในคนที่ใช้ยาคุมกำเนิด หรือผู้หญืงที่มีอายุมาก แต่หากมีปริมาณน้อยจนผิดปกติ โดยที่ไม่ได้ใช้ยาคุมกำเนิด ก็อาจเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้เช่นกัน
3. มีประจำเดือน 2 ครั้งต่อเดือนผิดปกติหรือไม่
ผู้หญิงบางคนอาจมีประจำเดือน เดือนละ 2 ครั้งก็เป็นไปได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความหงุดหงิด การงานที่รัดตัว ทำให้เกิดความเครียด ส่งผลให้ฮอร์โมนของร่างกายปั่นป่วน ทำให้มีเลือดออกในช่วงกลางรอบเดือน หรือช่วงที่ไข่ตก แต่ในบางรายก็อาจเกิดจากปัญหาเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่ ซึ่งมักจะมีอาการปวดบริเวณเชิงกรานและหลังร่วมด้วย ซึ่งควรแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
4. มีประจำเดือนจึงมาไม่สม่ำเสมอผิดปกติหรือไม่
ปัญหาความคลาดเคลื่อนของประจำเดือน มักทำให้เกิดความวิตกกังวลไปต่างๆ นานา แต่สาเหตุหลักๆ มักมาจากความเครียด ทำงานหนัก นอนน้อย หรืออาจจะเกิดจากการลดน้ำหนักจนขาดสารอาหาร ซึ่งทำให้ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องการเจริญพันธ์ผิดเพี้ยนได้ แม้จะไม่อันตรายนัก แต่หากประจำเดือนขาดหายไปนาน และมั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาจเกิดจากการไม่มีไข่ตก เนื่องจากความไม่สมดุลทางฮอร์โมนก็เป็นได้
5. ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
เลือดประจำเดือนโดยปกติจะมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว แต่หากเลือดประจำเดือนที่ออกมามีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ อาจหมายถึงอาการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด ควรเริ่มสังเกตว่ากลิ่นเหม็นนั้นมีตลอดช่วงที่มีประจำเดือนหรือไม่ หากใช่ก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ไม่อย่างนั้นอาการติดเชื้ออาจลุกลามจนทำให้มดลูกอักเสบ มีพยาธิในช่องคลอด หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบได้
6. รอบเดือนปกติของผู้หญิงคือกี่วัน
โดปกติผู้หญิงมักจะเป็นประจำเดือน 1 – 8 วัน ก็จะหมดประจำเดือน ใครที่มาประจำเดือนเกิน 8 วัน ถือว่ามีอาการผิดปกติ และถ้าร้ายแรงหรือเป็นนานจนผิดสังเกตควรไปพบแพทย์ ใครที่รอบเดือนมาเร็วกว่า 21 วัน และมาช้ากว่า 35 วัน ก็เป็นอาการผิดปกติ นะคะ โดยเฉลี่ยการมาประจำเดือนแต่ละรอบ จะอยู่ที่ 28 วันค่ะ และส่วนใหญ่วันตกไข่ จะเป็นวันที่ 14 ของรอบเดือน จะทำให้เกิดการปฏิสนธิได้ง่าย และหลังจากตกไข่แล้ว หากไม่มีการปฏิสนธิ เยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะหลุดออกมาเป็นประจำเดือน
7. มีประจำเดือนเลือดออกกระปริบกระปรอยผิดปกติหรือไม่
ส่วนใหญ่มักเกิดจาก การใช้ยาคุมกำเนิด โดยเฉพาะในคนที่ใช้ยาคุม ครั้งแรก อาจมีอการเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ แต่อาการดังกล่าวมักจะหายไปเมื่อร่างกายปรับตัวเข้ากับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดได้ ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ถ้ายังอาการอยู่นานกว่า 4 เดือนก็ควรจะไปพบแพทย์ค่ะ เพราะอาการเลือดออกกระปริบกระปรอย อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งปากมดลูกก็เป็นได้ แต่โรคนี้สามารถวินิจฉัยได้โดยวิธี Pap Smear นอกจากนี้โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น โรคหนองใน ก็อาจมีอาการเลือดออกกระปริบกระปรอยได้เช่นกัน
8. ห้ามออกกำลังกายในขณะที่มีประจำเดือนจริงหรือไม่
ประจำเดือนนั้น เกิดจากการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก และจะมีอาการมดลูกบีบตัวรุนแรง จึงทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ ในขณะที่การออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอนเดอร์ฟิน ซึ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายหายเครียด และช่วยแก้ปวดได้ทุกชนิด เรียกว่ามีสรรพคุณเทียบเท่า ยาแก้ปวดขนานเอกกันทีเดียว จึงดูไม่มีเหตุผล ที่จะเป็นข้อห้ามไม่ให้ยืดเส้นยืดสายในช่วงวันนั้นของเดือนแต่อย่างใด
9. มีประเดือนกับมีเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องผิดปกติไม่
จริงๆ แล้วอาจจะไม่มีข้อห้าม แต่มีข้อควรระวัง เพราะในช่วงที่มีรอบเดือนเป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิด เพื่อให้ประจำเดือนไหลออกมา และประจำเดือนก็เป็นอาหารอันโอชะสำหรับเชื้อแบททีเรีย จึงเป็นระยะที่เสี่ยงกับการติดเชื้อได้ง่าย ถ้าจะมีอารมณ์รักในช่วงนี้ ก็ควรระวังเรื่องของความสะอาด
โดยให้เขาทำความสะอาดของรักของเขาเสียก่อน และควรหลั่งภายนอกเพื่อความปลอดภัยของคุณเอง แต่จะให้ชัวร์ๆ ก็ควรใช้ถุงยางอนามัย แค่นี้ก็มีความสุขกับวันนั้นของเดือนได้ และมั่นใจกับเรื่องความปลอดภัย
10. มีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันนั้นของเดือนจะท้องหรือเปล่า
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันนั้นของเดือน ส่วนใหญ่มักจะปลอดภัย จากการตั้งครรภ์ ยกเว้นในผู้หญิงบางรายที่มีประจำเดือน เดือนละ 2 ครั้ง โดยจะมีเลือดออกในช่วงที่มีไข่ตก หรือในช่วงกลางรอบเดือน และ เข้าใจผิดว่า นั่นคือประจำเดือน ที่เกิดจากการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อมีเพศสัมพันธ์กันในวันนั้น ก็มีโอกาสท้องได้มากทีเดียวเพราะเป็นระยะที่มีการตกไข่ ถ้าจะให้มั่นใจจริงๆ ก็ควรใช้ถุงยางอนามัย นอกจากไม่ต้องกังวลกับเรื่องท้องแล้ว ยังปลอดโรคอีกด้วยค่ะ