วิธีสระผม ที่ถูกต้องตามประเภทของเส้นผม เพราะลักษณะผมของแต่ละคนมีความหนา บาง สั้น ยาว ไม่เท่ากัน แล้วในหนึ่งสัปดาห์ควรสระผมกี่ครั้งถึงจะเหมาะสม
ปัญหาคาใจของสาวๆ หลายคนเมื่อต้องถกเถียงกันเรื่องสระผม เพราะแต่ละคนต่างก็มีวิธีดูแลผมไม่เหมือนกัน บางคนก็สระผมทุกวันเพราะอ้างว่าผมคนเรามีความมัน แถมยังผ่านฝุ่นสกปรกมาทั้งวัน หากปล่อยทิ้งไว้ไม่สระผมทุกวันคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ ส่วนผู้หญิงผมหนา ผมยาว ทั้งหลายแหล่ก็มักจะอ้างว่าคนเราควรสระผมได้แค่สัปดาห์ละครั้งก็พอ เนื่องจากการสระผมทุกวันเป็นเรื่องยุ่งยาก และเส้นผมโดนสารเคมี จากแชมพูและครีมนวดทุกวัน หนังศีรษะก็คงแห้งลอกกันพอดี ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองกันอย่างนี้ แล้วเราควรเชื่อใครดี ?
ความจริงแล้วการสระผมนั้นขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละคนเสียมากกว่า หากให้ทุกคนยึดหลักการเดียวกันไปหมดนั่นอาจเป็นการทำร้ายเส้นผมไปเสียเปล่าๆ เพราะแม้แต่ยาสระผมก็ยังใช้คนละสูตรกัน แล้วความถี่ในการสระแต่ละครั้งก็ต้องแตกต่างกันไปด้วย กระปุกดอทคอมเลยขอรวบรวมเอาความถี่ของการสระผมตามแต่ละประเภทเส้นผมมาฝากกัน เพื่อที่จะได้เหมาะกับปัญหาของสาวๆ ที่สุดนั่นเอง
1. ผมหนา
การสระผมอาจถือได้ว่าเป็นความหนักใจอย่างหนึ่งในชีวิตของสาวผมหนาเลยก็ว่าได้ เพราะในแต่ครั้งที่สระผมช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน กว่าจะทำให้ผมเปียกพอลงยาสระผม กว่าจะล้างฟองบนหัวออกไปจนหมดเกลี้ยง แล้วยิ่งการล้างครีมนวดที่แสนจะลื่นมือก็ดูเป็นงานหนักพอสมควร ดังนั้นแล้วสาวๆ ที่มีผมหนาควรสระผมสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว บางคนได้ยินอาจจะรู้สึกตกใจสักหน่อย เพราะเวลาหนึ่งสัปดาห์แต่สระผมได้แค่ครั้งเดียวดูจะเกินไปหรือไม่ ความจริงแล้วเส้นผมที่หนาและเยอะเป็นตัวพรางตาชั้นดีทีเดียวแหละ หากมีน้ำมันบนศีรษะก็สังเกตได้ยากกว่าสาวผมบางด้วยซ้ำ แต่ถ้าใครผมมันเกินไปจริงๆ อนุโลมให้สระ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้
2. ผมบาง
สาวผมบางหลายคนอาจจะคิดว่าการสระผมทุกวันคงเป็นเรื่องง่ายไม่ยากเย็นอะไร เนื่องจากผมที่บางเบา จะเป่าสักทีก็แห้งง่ายเหลือเกิน แถมบางทีเวลาผมมันนิดๆ หน่อยๆ ก็มองเห็นได้ชัดเจนจึงเป็นสาเหตุให้สาวผมบางต้องสระผมทุกวัน ซึ่งขอบอกเลยว่านั่นเป็นพฤติกรรมที่ผิดเอามากๆ การสระผมทุกวันไม่ส่งผลดีต่อหนังศีรษะเลยสักนิด เพราะมันจะยิ่งเร่งให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น ทางที่ดีควรสระแค่วันเว้นวันก็พอ เพื่อที่หัวของเราจะได้มีน้ำมันหล่อเลี้ยงบ้าง หรือถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็ซื้อดรายแชมพูมาใช้ไปพลางๆ ในวันที่ต้องเว้นว่างจากการสระผมนั่นเอง
3. ผมหยักศก
ปกติแล้วสาวผมหยักศกส่วนใหญ่จะหัวมันเร็วมาก แต่ก็ยังโชคดีกว่าสาวผมบางหน่อยตรงที่ความหยักศกสามารถพรางตาหนังศีรษะที่มันได้เป็นอย่างดี หากจะสระผมควรเว้นประมาณ 2 วันสระทีถึงจะเหมาะ แล้วก็ไม่เป็นการทำร้ายเส้นผมมากเกินไปด้วย อีกอย่างครีมนวดผมก็สำคัญมาก ควรใช้ครีมนวดทุกครั้งหลังสระ จะได้มีผมที่หยิกและปลิวสลวยเหมือนเจ้าหญิงในนิยายกันไปเลย
4. ผมแห้ง
สำหรับสาวผมแห้งหลายคน สิ่งที่ต้องพึงระลึกไว้ในใจตลอดเลยก็คือ ผมของเราเปราะบางมาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ควรเบามือลงสักหน่อย บางทีอาจเห็นผลเสียด้วยตาเปล่าได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เมื่อมองใกล้ๆ จะรู้เลยว่า นอกจากจะแห้งแล้วผมของเรายังขาดหลุดร่วงได้ง่ายมาก ดังนั้นควรสระผมสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว และการสระแต่ละครั้งห้ามใช้ยาสระผมเยอะเกินไป เอาแค่พอดีๆ แค่ให้พวกฝุ่นและสิ่งสกปรกออกไปจากผมเป็นอันใช้ได้ ที่สำคัญควรใช้ทรีตเมนต์ที่มีความเข้มข้นสูง สูตรสำหรับผมแห้งแตกปลายโดยเฉพาะทุกครั้งหลังสระ พอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วค่อยล้างออก จะทำให้ผมกลับมาสุขภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
5. ผมมัน
เกิดมาเป็นสาวผมมันช่างลำบากใจเสียเหลือเกิน แม้ว่าจะไม่ค่อยเผชิญกับปัญหาผมเสียแห้งแตกปลาย หรือถ้าผ่านการทำสีผมมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังมีผมเงางามนุ่มสลวยอยู่ดี ทว่าผมเงางามนั้นกลับอยู่บนหัวสาวผมมันได้ไม่นานนัก เพราะผ่านไปไม่ถึงครึ่งวัน รับรองว่าความเยิ้มบนหนังศีรษะคงเผยออกมาจนปกปิดได้ไม่มิด เพิ่งจะสระไปตอนเช้าเห็นทีคงได้สระตอนเย็นเป็นแน่ ต้องบอกว่าใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งรีบทำอะไรกับผมเร็วขนาดนั้น หากสระผมทุกวันจะยิ่งเร่งให้ผมมันกว่าเดิมเสียอีก สาวผมมันทั้งหลายควรสระผมวันเว้นวันจะดีที่สุด ให้ต่อมไขมันได้หยุดทำงานเกินพอดีบ้าง แล้วระหว่างนั้นก็พึ่งพาดรายแชมพูไปก่อน อย่างน้อยก็ช่วยคุมมันได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งหมดนี้คือวิธีการสระผมที่ถูกต้องของสาวๆ ที่มีปัญหาเส้นผมแต่ละประเภท หากรักเส้นผมจริงๆ ก็ควรดูแลอย่างถูกวิธี ไม่ทำร้ายหนังศีรษะด้วยการสระผมทุกวัน และใช้ครีมนวดทุกครั้งหลังสระจะดีมาก ต่อให้เรามีผมมันเยิ้มเกินพอดี แต่การไม่ใช้ครีมนวดเลยอาจไม่ได้ทำให้หนังศีรษะมันอย่างเดียว ทว่าเส้นผมเราอาจดูแห้งเป็นไม้กวาดจนหาทางฟื้นฟูยากไปเลยก็ได้