สมัยนี้ผู้หญิงมีทักษะต่างๆ เยอะขึ้นมากแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการขับขี่รถยนต์ที่สมัยก่อนเป็นหน้าที่ของผู้ชาย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้หญิงก็ยังคงขาดทักษะเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์อยู่ดี ดังนั้นจึงทำให้เกิดปัญหาตามมาบ่อยครั้งเพราะไม่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์อยู่เลย Gangbeauty ไม่ได้จะแนะนำให้ไปเรียนรู้กันหรอกนะ เพราะมันอาจจะใช้เวลาและยากเกินไป แต่เราก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ เบื้องต้นมาให้ หากพบเจอสิ่งต่างๆ เหล่านี้ในรถยนต์เมื่อไหร่ก็มโนภาพล่วงหน้าเอาไว้ได้ว่าใกล้จะพัง ต้องเข้าศูนย์แล้ว!
pxhere.com
1. เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์เริ่มติดยาก เดี๋ยวดับ เดี๋ยวหาย ซึ่งโดยปกติ เครื่องยนต์ที่สภาพยังดีมักจะต้องทำงานทันทีที่บิดกุญแจเพียงครั้งเดียว เสียงไดสตาร์ทก็ไม่ควรลากยาวเกิน 3-4 จังหวะด้วย นอกจากนี้ หากเครื่องยนต์ของเราต้องใช้การบิดกุญแจหลายครั้งถึงจะติด นั่นอาจหมายถึงความเสื่อมสภาพของแบตเตอรี ควรเปลี่ยนได้แล้วล่ะ
www.flickr.com
2. แม้ว่าเสียงต่างๆ ของรถยนต์จะค่อนข้างฟังยากสักเล็กน้อย แต่ก็ควรพยายามฝึกทักษะการแยกแยะเสียงให้ออก ว่าเสียงแบบนี้คือเสียงอะไร ท่อไอเสีย หรือเสียงล้อยางบดถนน บางครั้งก็ต้องพยายามเรียนรู้ให้ได้ด้วยถึงอาการต่างๆ ของรถ เช่น รถสั่นสะเทือนแบบนี้ผิดปกติแล้วนะ เป็นต้น
3. เบรกถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการขับรถ ซึ่งถ้าวันใดวันหนึ่ง ได้ยินเสียงเบรกเหมือนโลหะเสียดสีกัน อาจต้องเข้าศูนย์เปลี่ยนผ้าเบรกแล้ว เพราะเป็นอาการของผ้าเบรกสึกจนเกิดการเสียดสี ทำให้อุณหภูมิสูงจนเบรกติด อย่าประมาทเลยดีกว่า
4. บางครั้งอาจต้องสังเกตพื้นที่บริเวณที่ใช้จอดรถด้วยว่ามีรอยหยดน้ำมันอยู่บ้างหรือไม่ เพราะมันเป็นข้อบ่งบอกว่าระบบหล่อลื่นเริ่มมีการรั่วซึมจากการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ รีบเข้าศูนย์เพื่อหาจุดรั่วโดยด่วนเลยดีกว่าจ้ะ
www.flickr.com
5. แม้แต่ควันจากท่อไอเสีย ก็ต้องคอยสังเกตเหมือนกัน ซื้อรถมาแต่แรกควรดูควันของมันให้ดีว่าลักษณะแบบไหน ถ้าใช้ไปนานๆ แล้วเกิดมีลักษณะผิดแปลกไปจากปกติ เหม็นเกิน ดำเกิน แบบนี้ก็ควรต้องเข้าศูนย์เหมือนกัน
อย่ากลัวเปลืองเงินจนรถพังแล้วต้องซ่อมครั้งใหญ่เลยดีกว่านะ เพื่อความปลอดภัยด้วย!