จากการสำรวจประชากรวัยแรงงานหรือวัยทำงานของประเทศไทย พบว่า มีจำนวนถึง 67% ของจำนวนประชากรทั่วประเทศที่เป็นโรคบ้างาน ซึ่งจะส่งผลให้โรคนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และอาจกลายเป็นภัยที่คุกคามสุขภาพได้ หากใช้ชีวิตในวัยทำงานอย่างไม่ระมัดระวัง
ทั้งนี้โรคบ้างานจะพบได้มาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีบุคลิกเป็นคนสมบูรณ์แบบ เจ้าระเบียบ ชอบแข่งขัน มีความทะเยอทะยาน เอาจริงเอาจัง ในทางจิตวิทยากล่าวคือเกิดจากพฤติกรรมของคนที่ชอบทำงานเยอะ และมีความสุขจากการทำงาน ซึ่งจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของการเสพติดงาน และมีจิตใจคิดวนเวียนอยู่กับการทำงาน
ไม่เคยลา ขาด หรือมาทำงานสาย
สำหรับคนที่ไม่เคยมาทำงานสายเลยนั้น สามารถมองได้หลายแง่ คือ บ้านใกล้ที่ทำงานมา กับบ้านไกลที่ต้องใช้เวลาในการเดินทาง จึงตื่นเช้าเป็นพิเศษเพื่อให้มาถึงที่ทำงานเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามการมาทำงานไม่สาย ก็ต้องเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ส่วนการไม่เคยลาหรือขาดงานแม้แต่ครั้งเดียว แน่นอนล่ะว่าคุณคือคนที่บ้างานอย่างหนักหน่วง เพราะตลอดการทำงานคงไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยลางาน ฉะนั้นแล้วควรจะแบ่งเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองบ้าง
มาคนแรกกลับคนสุดท้าย
การเข้าทำงานที่ตรงต่อเวลาอย่างสม่ำเสมอถือเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวคุณ เพราะมันเปรียบดั่งเป็นตัวชี้วัดความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบได้อย่างหนึ่ง ส่วนการกลับบ้านเป็นคนสุดท้ายของแผนกหรือบริษัทนั้น ในหลายคนอาจเข้าใจว่าหากจะทำงานให้ได้มากขึ้นก็ต้องใช้วิธีเพิ่มชั่วโมงการทำงาน แต่ในความเป็นจริงแล้วเราควรทำงานอย่างเต็มที่ในเวลา จะได้ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานเกินเวลาหลายชั่วโมง
งานไม่เสร็จไม่กินข้าว
ไม่ยอมพักกินข้าวเลยทั้งวันตลอดการทำงาน แถมยังมีกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะอีก เช่น งานไม่เสร็จจะไม่กินข้าวเด็ดขาด หรือต้องทำงานทั้งหมดให้เสร็จก่อนเวลาเลิกงาน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนเช่นกันว่า คุณกำลังบ้างานมากไปแล้วจริงๆ โดยหากไม่ตระหนักดูแลตัวเอง ก็จะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา อาทิ เช่น โรคกระเพาะอาหาร สมองไม่แล่น ความจำไม่ดี อ่อนเปลี้ยเพลียแรง และนอนไม่หลับ เป็นต้น
เอางานกลับไปทำต่อที่บ้าน
ถ้าคุณยังเป็นคนหนึ่งที่หอบงานมาทำต่อที่บ้าน เพียงเพราะงานไม่เสร็จแต่ไม่ใช่งานเร่งด่วน นั่นก็ถือว่าเป็นอาการเบื้องต้นของคนบ้างานแล้ว ซึ่งก็นับว่าเป็นสิ่งที่ยากที่เมื่อกลับบ้านไปแล้ว เราจะปิดโทรศัพท์มือถือหรืองดเช็คอีเมล แต่ถ้าหากคุณทำได้ ก็จะเป็นตัวช่วยที่สามารถรักษาทั้งชีวิตส่วนตัว (เวลาพักผ่อน) และการทำงานได้นั่นเอง
อยู่เฉยไม่ได้ หากไม่มีงานทำจะรู้สึกกระวนกระวาย
คนที่บ้างานมากๆ มักมีความรู้สึกว่าอยากทำงานอยู่ตลอดเวลา แม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในบางคนอาจอยู่เฉยไม่ได้และรู้สึกกระวนกระวายที่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งแม้สิ่งนี้จะเป็นเหมือนตัวที่บอกว่าคุณมีความมุ่งมั่น หรือเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับงานเป็นอย่างดี แต่หากความเครียดเกิดขึ้นทุกครั้ง นี่ก็บ่งชี้ได้แล้วว่าคุณกำลังบ้างานอย่างหนัก โดยอาการเหล่านี้อาจจะกลายเป็นผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้
แนวทางการป้องกันอาการบ้างาน
1. ปรับพฤติกรรมการทำงานเสียใหม่ โดยมีสัดส่วนเวลาการทำงานกับเวลาพักผ่อนให้สมดุลกัน
2. ให้เวลาแก่การทำงานแต่ต้องมีการผ่อนคลายควบคู่ เช่น หลับตาหรือหายใจลึกๆ สักพัก ระหว่างเวลาทำงาน 1 ชั่วโมง ใช้สมอง 45 นาทีแล้วพัก 10-15 นาที (ควรทำทุกชั่วโมง)
3. เลิกเอางานกลับมาทำที่บ้าน หากทำได้จะเป็นช่วงที่ดี ในการได้ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง
4. ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ สามารถโทรขอคำปรึกษาไดที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือปรึกษาคลินิกคลายเครียดที่มีอยู่ในหน่วยงานในสังกัดกรมสุขภาพจิตได้