หากพูดถึงปัญหาน่าเบื่อหน่ายที่ผู้หญิงค่อนข้างเซ็งเพราะต้องทนอยู่กับมันสม่ำเสมอ หนึ่งในนั้นก็คงต้องมีเรื่องของขนรักแร้ปะปนด้วย สมัยนี้โชคดีหน่อยว่าเทคโนโลยีล้ำหน้า มีเลเซอร์ให้ขนหายไป แถมยังเรียบเนียนได้แค่นอนหลับตาพริ้มแล้วจ่ายเงิน แล้วไม่คิดสงสัยกันบ้างเหรอว่าสมัยก่อนที่ผู้หญิงส่วนใหญ่แต่งกายเป็นสไบเฉียงอก พวกเธอจะมีวิธีจัดการปัญหานี้อย่างไรไม่ให้มันโผล่แพลมออกมาน่าเกลียด Gangbeauty บอกเลยว่าเคล็ดลับแบบชาวบ้านแบบนี้ ทุกวันนี้ยังใช้ได้!
จากข้อมูลในเพจของ คลังประวัติศาสตร์ไทย ได้มีการกล่าวถึงการกำจัดขนรักแร้แบบสาวชาววังเอาไว้ว่าในอดีตนั้น ไม่ว่าจะที่ไหน คุณผู้หญิงล้วนแต่งกายด้วยการห่มสไบเฉียงหรือเกาะอกเท่านั้น แน่นอนว่าขนรักแร้จึงเป็นปัญหาใหญ่ ถ้ามีโผล่แพลมออกไปอาจโดนแซวจนเขินอาย ถึงขั้นโด่งดังไปทั่วย่านน้ำกันเลยทีเดียว ดังเช่นกลอนบทหนึ่งที่ว่า
อนิจจาเราสองเจ้ากับพี่ .. จะมีใครมาเห็นเจ้าเล่าพิมเอ๋ย
อาบทั้งตัวอาบทั้งผ้าไม่เย็นเลย .. อยากจะเผยสะไบนางออกจากทรวง
ถ้าเปิดไปขนรักแร้คงฟูฟ่อง .. หยิกพองหยองดูแล้วจะไม่สวย
ขอพี่ดูจับเล่นเป็นละทวย .. อยากจะช่วยดึงถอนให้หมดงอนงาม
ดังนั้นสาวชาววังจึงมีวิธีกำจัดขนรักแร้และขนที่ไม่พึงประสงค์ออกไปด้วยการ ใช้แหนบ ถอนนั่นเอง วิธีนี้มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยปรากฎเป็นหลักฐานในบทนิราศ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร แห่งราชวงศ์พูหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีใจความว่า
ไรน้อยรอยแหนบทึ้ง…..ถอนแถว
เป็นระเบียบตามแนว…..รอบเกล้า
ริมเผ้าเพราพริ้งแวว…..แลเลิศ
ผมมวยรวยปีกเจ้า…..เรียบร้อยไรงาม
นอกจากแหนบที่นิยมใช้กำจัดขนน่ารังเกียจออกไป ก็ยังมีการใช้เมล็ดข้าวสารหรือข้าวเปลือก หนีบขนรักแร้ขึ้นมา ตลอดจนสามารถใช้ปูนแดงที่กินกับหมาก หรือขี้เถ้าจากเตาฟืนมาถูนิ้วให้เกิดความหนืด แล้วก็ใช้นิ้วนั้นแหละในการดึงขนไม่พึงประสงค์ออกกันแบบสดๆ!
จะว่าไปสมัยนี้ก็ยังใช้ได้ แค่หลังถอนต้องหาครีมบำรุงมาทาสักหน่อย ประหยัด!