GangBeauty มีสาระความรู้ดีๆมาฝากกันอีกเช่นเคย ครั้งนี้เกี่ยวกับปลาหมึก เนื้อสัตว์ที่หลายคนนิยมนำมาปรุงอาหาร เพราะรสชาติอร่อย หาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพงเกินไป แต่หลังจากอ่านบทความนี้ วิธีเลือกซื้อปลาหมึกของคุณอาจจะเปลี่ยนไป เพราะแค่ดูสด ผิวตึงอาจยังไม่พอ
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยผ่าน เฟซบุ๊คแฟนเพจชื่อ เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหารและของรอบตัว ที่ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของพ่อค้าขายปลาหมึกบางร้าน ที่นำตัวยาที่มีแอสไพรินไปแช่ปลาหมึก เพื่อให้ผิวปลาหมึกดูเต่งตึงเหมือนสดใหม่ หากผู้บริโภคไม่ระวังเสี่ยงมีอันตรายถึงชีวิต โดยเพจ เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหารและของรอบตัว ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า
“มิติใหม่ของยาทัมใจ เมื่อพ่อค้าหัวใสบางคนซื้อไปเพื่อแช่ปลาหมึกให้เต่งตึง จากโพสต์ของเจ้าของโพสต์ที่เป็นเภสัชกร ที่บอกว่ามีคนซื้อยาทัมใจไปแช่ปลาหมึกเพื่อให้เด้ง ปกติแล้วเวลาพ่อค้าซื้อปลาหมึกแช่แข็งมานั้น มักจะมีลักษณะเหี่ยวเนื้ออ่อนยวบยาบจนไม่ได้น้ำหนัก และหน้าตาไม่น่ากินเลย ดังนั้นเหล่าพ่อค้าจึงมักจะนำปลาหมึกนั้นมาแกว่งในน้ำแข็งผสมเกลือบ้าง ยาทัมใจบ้าง โซดาบ้าง อะไรงี้ ซึ่งส่วนใหญ่พวกนี้จะทำให้เกิดการ salting in จากการออสโมซิส (osmosis) ของน้ำเข้าไปจนเนื้อปลาหมึกเต่งตึงดูขาวเหมือนใหม่ได้
แต่เดี๋ยว!!! ยาทัมใจเนี่ยนะ ปกติแล้วยาทัมใจก็เป็นยาแอสไพริน (aspirin) ที่มีชื่อทางเคมีว่า acetylsalicylic acid ที่อยู่ในกลุ่ม NSAIDs (nonsteroidal anti-inflammatory drugs) นะครับ มักใช้เป็นยาระงับปวด ยาลดไข้และยาแก้อักเสบ และแถมยังมีฤทธิ์ต้านเกล็ดเลือดได้ด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่า “ห้ามใช้กับคนที่แพ้ NSAIDs” ด้วย
ดังนั้นพฤติกรรมของพ่อค้าที่นำเอายาทัมใจหรือแอสไพรินยี่ห้ออื่นมาแช่ปลาหมึกนี่ เรียกว่าเป็น #ฆาตกร สำหรับผู้ที่แพ้แอสไพรินได้อย่างเลือดเย็นเลยทีเดียว เพราะแอสไพรินนั้นเป็นกรดที่ขนาดโมเลกุลค่อนข้างใหญ่และมีสัมพรรคภาพ (affinity) กับโปรตีนได้ดีเลยทีเดียว จึงทำให้ล้างออกยากมาก ดังนั้นถ้าจะแช่ปลาหมึกให้เด้งก็สามารถใช้น้ำเกลือประมาณ 5% (แต่มันก็เค็มอ่ะเนอะ) หรือไม่ก็แช่โซดา (ซึ่งก็แพงไปอีก) แต่ก็ปลอดภัยนะครับ #ยาทัมใจเป็นยารักษาโรค #ยาทัมใจไม่ใช่ขนม #แอสไพรินยี่ห้ออื่นก็ด้วย #อย่าใส่ซี้ซั้วเลย แอดขอร้องล่ะ
หลังจากรู้แบบนี้แล้ว ผู้บริโภคอย่างเราควรระมัดระวัง เลือกซื้อเพราะความสดใหม่อาจจะยังไม่พอ แต่ต้องเป็นร้านที่เชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพทั้งของคุณ และคนที่คุณรักค่ะ ส่วนผู้ขายเองก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยวิธีการที่ผิด เพราะหวังกำไรเพียงเล็กน้อย ถ้าต้องแลกกับชื่อเสียง และช่องทางทำกิน มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงแน่นอน