ชาวพุทธก็ต้องทำบุญ ทำบุญให้ได้ทุกวันแบบง่ายๆก็คือการตื่นแต่เช้า มาตักบาตร ซึ่งการตักบาตรของเธอ ก็มักจะเป็นการหาซื้อสินค้า หรือชุดตักบาตรที่มีขายสำเร็จรูปอยู่แล้ว โดยไม่ได้คิดว่ามันจะดีหรือไม่ดีต่อพระสงฆ์องค์เจ้า Gangbeauty เห็นยังมีอยู่อีกหลายคนมาก ที่ตักบาตรเพราะศรัทธา แต่ลืมพิจารณาข้าวของที่ใช้ตักบาตร ว่ามันควรหรือไม่ควร ไหนๆก็อยากจะเป็นชะนีสายบุญขึ้นมาบ้าง สะสมแต้มความดีไว้ไปสวยชาติหน้า ก็ควรต้องรู้กันหน่อยล่ะว่าอะไรบ้างที่ไม่ควรนำมาใส่บาตร!
1. ข้าวสาร อาหารแห้ง
อันนี้เห็นกันเยอะมากกกกกกก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ้างล่ะ ข้าวสารบ้างล่ะ หนักกว่านั้นบางคนใส่เนื้อสดไปอีก ตามหลักพระธรรมวินัย แบบนี้ไม่ควรอย่างแรง เพราะพระสงฆ์ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ ดังนั้นของที่เธอควรนำไปใส่บาตรพระ ควรเป็นของที่ฉันได้เลย ไม่ใช่ของที่เก็บข้ามวัน แต่ถ้าการใส่บาตรครั้งนั้น มีจุดประสงค์เพื่อส่งต่อสิ่งต่างๆ ไปยังผู้ยากไร้ อันนั้นโอเคจ้ะ
2. เงิน
พระสงฆ์รับเงิน ถือเป็นการอาบัติทุกกรณี ไม่ว่าจะเรียกร้อง รับเอง หรือไม่เต็มใจจะรับแต่ก็ได้มา ถือเป็นการผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ดังนั้นถ้าอยากถวายปัจจัยในการทำนุบำรุงศาสนาหรือวัด ก็ควรนำไปถวายวัดโดยตรง หรือเอาไปหยอดตามตู้บริจาคต่างๆก็ได้ อย่าใส่บาตรเลยนะทุกคน
3. ผลธัญพืชหรือผลไม้ที่มีเมล็ด
เธอคนไหนใส่บาตรด้วยผลไม้บ่อยๆ สังเกตตัวเองดูสิว่าไม่ค่อยจะปอกเป็นชิ้นกันหรอก มักถวายกันเป็นลูกเป็นเครือ แต่ตามหลักพระธรรมวินัยเก่าแก่ ผลธัญพืชหรือผลไม้ที่มีเมล็ด ถือเป็นสิ่งที่ยังสามารถให้กำเนิดชีวิตต่อไปได้อยู่ ถ้าอยากถวายจริงๆ ต้องหั่น เอาเมล็ดออก ซึ่งจริงๆก็ถือเป็นความเหมาะสมด้วยแหละ ถ้าถวายไปเป็นลูก พระท่านก็ฉันยาก อาจมีท่าทางที่ดูทุลักทะเลในการฉันก็ได้
4. ขนมหวาน แกงกะทิ
กับข้าวร้านไหนที่จัดเซตตักบาตรมาเป็นชุด ส่วนใหญ่ก็มีแต่นี่แหละ แกงกะทิ ขนมหวาน อาจเพราะว่าอาหารไทยที่อร่อย รสชาติจัดจ้านถึงใจ ส่วนใหญ่ก็มีกะทิเป็นส่วนประกอบ ญาติโยมก็เลยพากันเอามาตักบาตรมากมาย เธอจ๋า พระสงฆ์ท่านก็เป็นมนุษย์ แต่เป็นมนุษย์ที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ เต้นแอโรบิคได้แบบคนปกติทั่วไป ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน หรือป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับไขมันได้ง่ายๆเลยนะ
เวลาตักบาตร อย่าคิดแค่ว่าตัวเองสะดวกแค่ไหนเท่านั้น เข้าใจมั้ย?!