แม้รัชกาลที่ 9 อันเป็นที่รักของไพร่ฟ้าหน้าใสทั่วทั้งแผ่นดิน จะทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยไปแล้ว แต่สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อราษฎรอันเป็นที่รักของพระองค์มาตลอด 70 ปีนั้นยังคงสร้างประโยชน์เหลืออนันต์ให้กับประเทศไทยและทั่วโลก ทุกคนทราบกันดีกว่าพระราชกรณียกิจของพระองค์มีมากมาย และคงมีหลายเรื่องหลายราวที่ผ่านหูผ่านตา ผ่านการศึกษาของเธอมาบ้าง แต่ Gangbeauty เชื่อว่ามีอยู่ที่นึงที่นอกจากชาวชุมชนบึงพระราม 9 แล้ว แทบจะทั้งประเทศก็คงไม่รู้กันเลย
กษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีแต่ละพระองค์มีวัดประจำรัชกาล และในรัชกาลที่ 9 ก็ทรงมีวัดประจำรัชกาลเช่นกัน เป็นวัดที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นที่บริเวณบึงพระราม 9 ในที่ดินที่นางสาวจวงจันทร์ สิงหเสนีได้น้อมเกล้าฯ ถวายให้ เมื่อปี 2534 โดยมีชื่อว่า “วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก” แต่เป็นวัดที่ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ที่จะทรงมีวัดประจำรัชกาล แต่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของราษฎร!
ตามบันทึกแห่งประวัติศาสตร์ กล่าวว่าในช่วงก่อนปี 2530 ประเทศไทยเกิดปัญหาน้ำเน่าเสียหลายแห่ง และพระองค์ก็ทรงตระหนักถึงปัญหานั้นอย่างมาก จึงมีพระราชดำริให้ทดลองแก้ไขปัญหาน้ำเสียด้วยวิธีการเติมอากาศ บริเวณบึงพระราม 9 ในลักษณะระบบบำบัดน้ำเสียขนาดเล็ก และทำการทดสอบน้ำเน่าเสียที่ไหลมาตามคลองลาดพร้าวบางส่วน ให้มีคุณภาพดีขึ้น วิธีการคือเติมอากาศลงไป แล้วปล่อยให้น้ำตกตะกอน ก่อนจะปรับสภาพตามธรรมชาติ ระบายออกสู่คลองตามเดิม
อีกหนึ่งภารกิจ ณ ขณะนั้นคือมีการปรับปรุงคุณภาพของน้ำ โดยการนำน้ำสะอาดจากแม่น้ำเจ้าพระยา มาชะล้างทำความสะอาดคลอง และระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยอาศัยจังหวะน้ำขึ้น-น้ำลงตามธรรมชาติ ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหา ให้บรรเทาลงได้ในระดับหนึ่ง จนดำเนินการทดลอง ทดสอบแนวคิดของพระองค์ไปได้ระยะหนึ่ง ก็ทรงมีพระราชดำริเพิ่มเติมในปี 2531 ให้มีการปรับปรุงสภาพพื้นที่ และชุมชนต่างๆ ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง และวัดนี้ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นวัดประจำชุมชน
แม้จะเป็นวัดประจำรัชกาล แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตโอ่โถงมากนัก เพราะพระองค์ไม่ต้องการวัดที่ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ แค่ต้องการวัดที่เอาไว้ใช้สั่งสอนชาวบ้านในละแวกนั้น เอื้อประโยชน์กับชุมชนได้ และให้เป็นตัวอย่างของการสร้างวัดประจำชุมชนได้ก็พอ แม้คณะอนุกรรมการฝ่ายออกแบบจะออกแบบอาคารในการสร้าง จำกัดงบ 100 ล้านบาทมาน้อมเกล้าฯ ถวาย แต่พระองค์ก็ทรงปรับใหม่ให้เล็กลงทั้งหมด และลดงบลง ให้สร้างไม่เกิน 10 ล้านบาทก็พอ ยกตัวอย่างเช่นพระอุโบสถ จากเดิมจุได้กว่า 100 คน ก็ให้ลดขนาดลงจนจุได้เพียง 30-40 คนเท่านั้นเอง
เป็นวัดของพ่อ ที่พ่อสร้างให้ลูก พระองค์ไม่เคยคิดถึงพระองค์เองเลยจริงๆ