ชีวิตประจำวันเราจะคุ้นเคยกับเกลือแกง เกลือสินเธาว์ ที่มีลักษณะเป็นเกลือสีขาว แต่ถ้าพูดถึงเกลือสีชมพู คงเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายคน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ “เกลือหิมาลายัน” ถึงที่มา และประโยนช์ของเกลือชนิดนี้เมื่อเทียบกับเกลือทั่วๆ ไป นอกจากเกลือหิมาลายันจะมีแร่ธาตุมากมาย และมีสีสันสวยๆ แล้ว ยังมีดีอะไรอีกบ้าง ตามไปอ่านกันเลย
ที่มาของเกลือหิมาลายัน
หากจะพูดถึงที่มาของเกลือหิมาลายัน ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 250 ล้านปีก่อน มีเหตุการณ์ที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัวเขามาชนกันจนก่อให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงามพร้อมภูเขาสูงต่อมาถูกเรียกว่า เทือกเขาหิมาลัย ที่ได้สมญานามว่าหลังคาโลก ในระหว่างกระบวนการนั้น แผ่นเปลือกโลกที่กำลังเคลื่อนตัว ได้กวาดเอาน้ำทะเลมาด้วยและทับถมเป็นเวลานานจนเกิดเป็นหินเกลือที่ชื่อว่า เกลือหิมาลายัน (Himalayan Salt) ตั้งชื่อตามแหล่งกำเนิดบริเวณเทือกเขาหิมาลัย พบมากในประเทศปากีสถาน
ประโยชน์ของเกลือหิมาลายัน
ด้วยลักษณะของเกลือหิมาลายันที่มีชมพู ทำให้มีการออกมาพูดถึงสรรพคุณของเกลือหิมาลายันที่ดูจะเกินจริงไปบ้าง หากนำเกลือหิมาลายันไปเทียบกับเกลือทั่วไป เกลือหิมาลายันเป็นเกลือเพียงชนิดเดียวที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ได้ แต่เกลือสีชมพูจะมีประโยชน์อะไรซ่อนไว้อีกบ้าง และดีกว่าเกลือทั่วไปจริงหรือ?
แร่ธาตุหลายชนิดในเกลือหิมาลายัน
เกลือหิมาลายันมีแร่ธาตุสูงถึง 84 ชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ไอออน เป็นต้น ซึ่งเป็นประโยชน์หลักที่ผู้ผลิตหลายเจ้านำมาชูโรง แต่แร่ธาตุต่างๆ ของเกลือหิมาลายันมีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีก 98 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเป็นโซเดียม ดังนั้นเมื่อนำไปปรุงอาหารก็ควรใช้ในปริมาณพอๆ กับเกลือทั่วไป และปริมาณแรธาตุเล็กน้อยที่ได้รับจากเกลือหิมาลายัน อาจไม่ส่งผลต่อร่างกายชัดเจนมากนัก
โซเดียมในเกลือหิมาลายันต่ำกว่าเกลือทั่วไป
อย่างที่บอกไปในประโยชน์ข้อแรกคือ ในเกลือหิมาลายัน 98 เปอร์เซ็นต์เป็นโซเดียม ซึ่งแทบไม่แตกต่างจากเกลือทั่วไปหากไม่นับรวมแร่ธาตุ ดังนั้นความเชื่อที่ว่า เกลือหิมาลายันจะให้โซเดียมน้อยกว่าเกลือทั่วไป จึงไม่เป็นความจริง ยังไงก็ควรใช้เกลือหิมาลายันในปริมาณที่พอเหมาะเช่นเคย
แต่มีอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เราบริโภคเกลือหิมาลายันแล้วได้รับโซเดียมน้อยกว่า เป็นเพราะขนาดของเม็ดเกลือหิมาลายันค่อนข้างใหญ่ เมื่อตักด้วยช้อนขนาดเดียวกันจึงได้เกลือหิมาลายันในปริมาณที่น้อยกว่าเกลือทั่วไป เพราะเกลือทั่วๆ ไปจะเป็นเม็ดละเอียด ปัจจัยที่ทำให้เราบริโภคเกลือหิมาลายันแล้วได้รับโซเดียมน้อยลง เพราะเราใช้เกลือในปริมาณน้อยลงนั่นเอง
เกลือหิมาลายัน รักษาสมดุลความชุ่มชื้น
หลายคนออกมาบอกว่าประโยชน์ของเกลือหิมาลายันที่มากกว่าเกลือทั่วไปคือการรักษาสมดุลความชุ่มชื้น จึงทำให้เกลือหิมาลายันเป็นที่นิยม และนำมาบริโภคมากทั้งในอาหารและเครื่องดื่ม ข้อนี้เป็นความจริง แต่ไม่ได้แตกต่างกับเกลือทั่วไป เพราะคุณสมบัติในการรักษาสมดุลความชุ่มชื้น พบได้ในเกลือทุกชนิดเช่นกัน
เกลือหิมาลายัน มีความบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ
เนื่องจากเกลือหิมาลายันเป็นหินเกลือที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกลือหิมาลายันจึงได้ชื่อว่าเป็น เกลือที่มาจากธรรมชาติและมีความบริสุทธิ์สูงกว่าเกลือทั่วไปที่เราใช้ในครัวเรือน เกลือในครัวสีขาว เกิดจากการทำนาเกลือของมนุษย์ นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตยังมีการใส่สารป้องกันการจับตัวเป็นก้อน ที่เรียกว่า โซเดียมอะลูมิโนซิลิเกต จึงทำให้เกลือสีขาวไม่บริสุทธิ์เท่าเกลือหิมาลายัน
ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเกลือหิมาลายัน
ประโยชน์ของเกลือหิมาลัยที่เราได้ยินกันบ่อยๆ มีด้วยกันหลายประการ คือ
ช่วยปรับค่า pH ในร่างกาย
ช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ
ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการนอนหลับ
ลดเลือนริ้วรอย
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ในความเป็นจริงแล้ว “ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มารองรับ” และประโยชน์ของเกลือบางข้อ ก็เป็นคุณสมบัติที่พบได้ในเกลือทั่วไป
ตัวอย่างประโยชน์ของเกลือหิมาลายันที่ถูกพูดถึงว่า สามารถปรับค่า pH ในร่างกายได้ ซึ่งตามธรรมชาติแล้วปอดและไตของมนุษย์สามารถทำงานในส่วนนี้ได้โดยไม่ต้องใช้เกลือ หรือประโยนช์ของเกลือหิมาลายันต่อการนอนหลับ ซึ่งจากการศึกษาไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเกลือหิมาลายัน ดังนั้นคุณสมบัติข้อนี้จึงพบได้ในเกลือทุกชนิด
การทานเกลือมากเกินไป ส่งผลร้ายต่อร่างกายอย่างไร
ที่ 6 กรัมต่อวัน หากทานเกลือมาเกินไปจะส่งผลเสียหลักๆ คือ ทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพราะทำให้ปริมาณของโซเดียมและโพแทสเซียมในร่างกายเสียสมดุล ไตขับของเหลวได้น้อยลง ร่างกายจึงกักเก็บของเหลวไว้เป็นจำนวนมาก หรือที่เราเรียกว่า บวมน้ำ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมถึงส่งผลต่อหัวใจ หลอดเลือดและสมอง
“เกลือหิมาลายัน” เป็นเกลือที่มาจากเทือกเขาหิมาลัย อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ซึ่งระดับของโซเดียมในเกลือหิมาลายันมีปริมาณพอๆ กับเกลือแกงที่เราใช้กันในบ้าน รวมทั้งประโยชน์ของเกลือหิมาลายันที่ได้ยินกันมา ยังไม่มีการศึกษาหรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับ ดังนั้นแม้ว่าเราจะใช้เกลือหิมาลายันในการปรุงอาหาร ก็ควรควบคุมปริมาณเพื่อประโยชน์ต่อร่างกายที่แท้จริง
ชอปปิงกับ Shopee ในแคมเปญใน 9.9 แคมเปญใหญ่เอาใจนักชอปแบบจัดหนักจัดเต็ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://shopee.co.th/m/99