เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ระบบต่างๆ ภายในร่างกายก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ผิวพรรณเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอย ตีนกา ความเหี่ยวย่นทั้งหลายก็มาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น สาวๆ ทุกคนต้องหันมาสนใจดูแลตัวเองให้มากขึ้น อย่าละเลยการดูแลตัวเองจนติดเป้นนิสัยแย่ๆ ที่ทำให้ยิ่งแก่ลง ผิวพรรณก็แย่ลง วันนี้ Gang Beauty จึงอยากจะบอกสาวๆ ว่าจงเลิกซะกับ 5 นิสัยแย่เหล่านี้ที่จะทำให้เราหน้าแก่เกินวัย
1. นิสัยติดหวาน (น้ำตาลทำให้แก่)
น้ำตาลคืออาหารที่ขาดไม่ได้ แต่ถ้ามากไปก็เป็นอันตรายนะคะ เพราะน้ำตาลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง มีสิว ผิวตกกระ เป็นผื่น แผลพุพอง ป่วยและติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายเพราะน้ำตาลเป็นอาหารของเชื้อโรคค่ะ น้ำตาลส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้นำไปใช้ยังถูกเปลี่ยนเป็นกรดไขมันสะสมตามอวัยวะต่างๆ ทั้งตับ ไต หัวใจ หลอดเลือดและผิวหนัง ทำให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจและหลอดเลือด ยิ่งมีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดมากเท่าไหร่สารอนุมูลอิสระก็จะถูกผลิตเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเร็วขึ้นค่ะ
2. นิสัยนอนดึก (ยิ่งดึกยิ่งแก่)
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอนอกจากจะทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเจ็บป่วยง่ายแล้ว ยังทำให้ร่างกายทรุดโทรมและแก่เร็วอีกด้วย เพราะช่วงเวลาในการนอนหลับที่ดีที่สุดก็คือสี่ทุ่มถึงตีสี่ เป็นเวลาที่ร่างกายผลิตสารเมลาโทนินออกมามากที่สุด ซึ่งจะทำให้เราหลับลึกค่ะ และในช่วงของการหลับลึกร่างกายก็จะผลิตโกรทฮอร์โมน (HGH) ออกมาปริมาณมาก และโกรทฮอร์โมนก็จะเข้าไปทำหน้าที่กระตุ้นการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะคอลลาเจนใต้ผิวหนัง การนอนดึกและนอนน้อยจะทำให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาน้อย ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ขอบตาหมองคล้ำ ผิวหนังเหี่ยวย่นและดูแก่เร็วขึ้นนั่นเอง
3. นิสัยคิดลบ (เรื่องลบๆ ทำให้เครียด)
สาวๆ ที่มีนิสัยคิดลบอยู่เป็นประจำมักจะคิดเยอะ คิดมาก หงุดหงิดง่าย วิตกกังวลกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทั้งเรื่องงาน เพื่อน แฟน ครอบครัว สัพเพเหระเล็กๆน้อยๆก็ดูจะเป็นปัญหาไปซะทุกเรื่อง สุดท้ายก็กลายเป็นความเครียดที่ทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ถ้ามีคอร์ติซอลมากเกินไปเซลล์ต่างๆ ก็จะเสื่อมสภาพเร็ว หัวใจ หลอดเลือด ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ หลายคนเครียดจนเป็นไมเกรน บ้างก็เครียดลงกระเพาะ เครียดจนดูแก่ เพราะผลเสียจากการคิดลบ วิตกกังวลและเครียดที่ชัดเจนที่สุดก็คือ จิตใจที่หดหู่ ห่อเหี่ยว และริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เพิ่มขึ้นบนใบหน้าของเรานั่นเองค่ะ
4. นิสัยกลัวแดด (แดดส่งผลดีต่อจิตใจ)
พอพูดถึงการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านสาวๆหลายคนก็คงกลัวว่าจะต้องไปเจอกับแสงแดดที่ทำร้ายผิวให้หมองคล้ำกันใช่ไหมล่ะคะ แต่แสงแดดนี่แหล่ะที่เป็นตัวกระตุ้นความอ่อนเยาว์ในตัวเราให้ฟื้นขึ้นมาได้ เพราะแสงแดดจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคต่างๆ การใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่ห่างไกลจากแสงแดดเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายอ่อนแอมากขึ้นเรื่อยๆ แสงแดดในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยกระตุ้นการลำเลียงออกซิเจนในเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้เซลล์ผิวของเราแข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดอาการอักเสบในชั้นเซลล์ผิวของเราด้วยค่ะ
ทุกๆ ครั้งที่เราได้ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเดินเล่น ปั่นจักรยาน นั่งรถกินลมชมวิวสว ยๆ ได้สูดอากาศจากธรรมชาติรอบตัว เราจะรู้สึกสดชื่นขึ้นค่ะ คนส่วนใหญ่ชอบนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก นั่นก็เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย เหมือนได้ปลดปล่อยความทุกข์ ความเครียดก็ลดลงและสมองจะหลั่งสารแห่งความสุขอย่างเอ็นดอร์ฟินส์ออกมา ถ้าเราได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ก็เหมือนได้ย้อนวัยกลับไปทำอะไรสนุกๆ และจะยิ่งรู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
สาวๆ ที่ไม่มั่นใจว่าการทำกิจกรรมกลางแจ้งจะทำให้ผิวสวยๆต้องเจอกับแสงแดดที่รุนแรงเกินไปหรือเปล่าเพราะหากตากแดดนานมากเกินไป ผิวอาจคล้ำ เกิดจุดด่างดำ รวมถึงทำให้เกิดริ้วรอยในอนาคตได้ ไม่ใช่แค่กางร่มที่มี UV นะ เพราะแสงแดดอย่างไรก็สามารถสะท้อนมาโดนผิวได้ ถ้าให้ดีต้องหาตัวช่วยดีๆ อย่างครีมกันแดดที่เป็นเสมือนเกราะปกป้องผิว และต้องมั่นใจว่าครีมกันแดดที่เลือกสามารถปกป้องรังสีได้ดี ดังนั้นก่อนออกไปท้าทายแสงแดดทุกครั้งก็อย่าลืมทาครีม ก่อนออกแดด 20 นาที และหากวันไหนเจอแดดแรงเป็นเวลานานก็ควรจะทาซ้ำทุก 2 ชม.
5. นิสัยขี้เกียจ (โดยเฉพาะห้ามขี้เกียจออกกำลังกาย)
ดูแลผิวพรรณจนสวยสดใสเหมือนสาวแรกรุ่นกันแล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายกันด้วยนะคะ หลายคนอาจจะคิดว่าถ้ามีรูปร่างดี ควบคุมน้ำหนักได้ก็ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายให้เหนื่อย แต่จริงๆ แล้วการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หัวใจแข็งแรงขึ้น การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น สิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนจะไหลออกมาพร้อมกับเหงื่อแล้วผิวก็จะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ช่วยทำให้ผิวพรรณกระชับ สดใส เปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวลค่ะ สาวๆ ที่ออกกำลังกายบ่อยๆ จะรู้สึกสดชื่นสมองปลอดโปร่งผ่อนคลายและนอนหลับสบายมากขึ้นด้วยค่ะ