“มะเขือเปราะ” ตามตำราแพทย์แผนไทย ผลมะเขือเปราะช่วยลดไข้ ลดการอักเสบ ลดความดันเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบ กระตุ้นการเผาผลาญกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยขับพยาธิ รักษาเบาหวาน ต้านมะเร็ง และช่วยบำรุงหัวใจได้
คุณค่าทางสารอาหารของมะเขือเปราะ
มะเขือเปราะ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 39 กิโลแคลอรี่ มี โปรตีน 1.6 กรัม, ไขมัน 0.5 กรัม, แป้ง 7.1 กรัม, แคลเซียม 7 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 10 มิลลิกรัม, เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม, ไทอะมีน 0.11 มิลลิกรัม, ไนอะซีน 0.6 มิลลิกรัม, ไรโบฟลาวิน 0.06 มิลิกรัม, น้ำ 90.2 กรัม, วิตามินเอ และ วิตามินซี
ประโยชน์ของมะเขือเปราะ
– มีสรรพคุณใช้สำหรับขับพยาธิได้ และช่วยในการย่อยอาหาร
– รักษาโรคเบาหวาน มีผลงานวิจัยจากประเทศอินเดีย พบว่าสารสกัดจากผลมะเขือเปราะสามารถใช้ลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองได้ดีพอๆ กับการใช้ยา สารสกัดออกฤทธิ์คล้ายๆ กับอินซูลิน ช่วยให้การเผาผลาญกลูโคสมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังพบว่าไม่มีพิษต่อหนูทดลองนั้นอีกด้วย
– ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง ผลมะเขือเปราะมีสารไกลโคอัลคาลอยด์มาร์จีน และอัลคาลอยด์โซลาซาดีนซึ่งปราศจากโมเลกุลน้ำตาล ป้องกันเซลล์มะเร็งตับ และเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่เจริญเติบโต
– มีสรรพคุณในการใช้รักษา อาการไอ โรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และขับลม ทั้งยังมีการสนับสนุนด้วยหลักฐานทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียว่า มะเขือเปราะช่วยรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ
– มีฤทธิ์ลดการบีบตัวกล้ามเนื้อเรียบ ต้านมะเร็ง บำรุงหัวใจ และลดความดันเลือด ตามรายงานผลวิจัยนานาชาติระหว่างปี พ.ศ.2510-2538
– สารโซลาโซดีนในมะเขือเปราะ ใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สเตียรอยด์คอร์ติโซนและฮอร์โมนเพศได้
– ตำรับยาพื้นบ้านใช้ผลตากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำผึ้งใช้ปรุงยาแก้ไอ
– ตัวช่วยลดน้ำหนัก มะเขือเกือบทุกชนิด รวมถึงมะเขือเปราะถือเป็นอาหารที่ดีต่อคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะเป็นผักที่มีปริมาณแคลอรีไม่มาก แถมยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยให้เราอิ่มนาน รู้สึกอยากอาหารน้อยลง จึงเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้ทางอ้อมค่ะ
– เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันท้องผูก ช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น ลดอาการท้องผูกได้ เพราะมะเขือเปราะมีไฟเบอร์อยู่เป็นจำนวนมาก จึงช่วยกระตุ้นให้ท้องและลำไส้บีบตัว ดูดซึมสารอาหารและขับถ่ายออกไปได้ดี นอกจากนี้ยังมะเขือเปราะยังเป็นอัลคาไลน์ธรรมชาติที่ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารของเราได้ด้วยนะคะ
– บำรุงกระดูกให้แข็งแรง มะเขือเปราะมีสารอาหารจำพวกแคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กอยู่ค่อนข้างสูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกได้เป็นอย่างดี การทานมะเขือเปราะเป็นประจำจึงช่วยลดความเสี่ยงกระดูกพรุน และกระดูกเสื่อมลงได้
– บำรุงผิว มะเขือเปราะมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิว แถมยังอุดมไปด้วยน้ำและวิตามินดีๆ เช่น วิตามินอี ที่ทำให้ผิวของสาวๆ กระจ่างใส นุ่ม และชุ่มชื่น
– บำรุงผม มะเขือเปราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ค่อนข้างมาก จึงช่วยบำรุงเส้นผมไม่ให้แห้งกระด้าง หรือหากต้องการบำรุงรากผมให้แข็งแรง ผมไม่หลุดร่วงง่ายๆ ก็ลองนำมะเขือเปราะมาหั่นเป็นซีกๆ แล้วถูบริเวณหนังศีรษะ ทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยแชมพูแบบอ่อนๆ น้ำจากมะเขือเปราะที่ซึมเข้าไปก็จะช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังมีเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์บนหนังศีรษะ ทำให้ผมงอกและยาวเร็วขึ้นได้ด้วยนะ
ลดอาการคันศีรษะหรือขจัดรังแค ก็มีสูตรจากมะเขือเปราะมาช่วยได้ด้วยเหมือนกัน โดยนำมะเขือเปราะ 1 ลูก แตงกวาและอะโวคาโดอย่างละครึ่งลูก มาผสมกับครีมเปรี้ยวประมาณ 1/3 แล้วนำไปพอกหนังศีรษะครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยล้างออกด้วยยาสระผมและน้ำอุ่น ก็จะช่วยบำรุงให้หนังศีรษะของเรามีสุขภาพดี ไร้อาการคันหรือรังแคมากวนใจเลยล่ะค่ะ
– ป้องกันโลหิตจาง มะเขือเปราะเป็นสารอาหารที่มีธาตุเหล็กอยู่พอสมควรค่ะ อีกทั้งยังมีทองแดงที่สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงอยู่สูง โดยสารอาหารทั้งสองชนิดจะทำงานร่วมกันช่วยให้เม็ดเลือดแดงกระจายตัวได้อย่างเต็มที่ และช่วยกระตุ้นการสร้างฮีโมโกลบินด้วย
– บำรุงหัวใจ งานวิจัยนานาชาติระหว่างปี พ.ศ. 2510-2538 พบว่า ผลมะเขือเปราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และช่วยควบคุมความดันเลือดให้คงที่ ซึ่งทั้งสองถือเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้ ทำให้การทานมะเขือเปราะช่วยบำรุงและลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้นั่นเองค่ะ
– บำรุงตับ มะเขือเปราะช่วยเพิ่มการผลิตน้ำดีในตับให้ออกมาย่อยไขมันได้มากขึ้น เป็นการป้องกันภาวะตับวายได้อีกทาง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ประเทศอินเดียใช้สารสกัดน้ำจากผลมะเขือเปราะกับหนูทดลอง แล้วพบว่า สารนั้นมีผลเชิงบวกต่อการทำงานของตับอ่อน โดยที่ไม่มีพิษต่อสัตว์ทดลองเลยด้วย
– ลดความเสี่ยงมะเร็ง มะเขือเปราะมีสารไกลโคอัลคาลอยด์โซลามาร์จีน โซลาโซนีน และอัลคาลอยด์โซลาโซดีนที่ปราศจากโมเลกุลน้ำตาล ซึ่งการทดสอบฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งของสารเหล่านี้พบว่า สารทุกตัวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการก่อของเซลล์มะเร็งตับและลำไส้ใหญ่ อีกทั้งในมะเขือเปราะยังมีกรดโคโรจินิกที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แถมยังอุดมไปด้วยสารฟีนอลและวิตามินซี ที่ช่วยให้ภูมิต้านทานแข็งแรง กระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาวให้มากำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงบอกได้ว่า มะเขือเปราะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้พอสมควรเลยค่ะ