ปลาได้รับการขนานนามว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ปกติเนื้อปลาแซลมอนจะเป็นอาหารสำคัญที่มีคุณประโยชน์ดีสำหรับสุขภาพของหัวใจ เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่มาก แต่เมื่อพูดถึงปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์มผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่าปลาแซลมอนก่อให้เกิดโทษมากมายเช่นกันหากเป็นปลาแซลมอนจากการเลี้ยงในฟาร์ม
โดยในระหว่างที่มีการถ่ายทำสารคดี “Fillet-Oh-Fish” โดยผู้กำกับ “Nicolas Daniels” ได้มีการค้นพบว่ากลุ่มชาวฟยอร์ดนอร์เวย์ที่มีฟาร์มปลาแซลมอนมีชั้นขยะสูงประมาณ 15 เมตร ประกอบด้วยแบคทีเรียและยากำจัดศัตรูพืช และส่วนฟาร์มทะเลที่เลี้ยงแบบธรรมชาติตั้งอยู่ในที่เปิดโล่งจึงทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีมลพิษแบบเลี้ยงในฟาร์ม
ตามที่ Dr. Joseph Mercola ได้กล่าวไว้ว่า “การประมงในปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาที่ร้ายแรงหลายอย่างตั้งแต่การประมงไปจนถึงมลภาวะทางเคมีและการกลายพันทางพันธุกรรม จากการสัมผัสสารพิษ”
ปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์มได้มีการพิสูจน์แล้วว่ามีสารพิษมากกว่าอาหารอื่นๆถึง 5 เท่า! และมีพิษมากที่สุดในโลก!!
แซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์มมีความไม่แน่นอนของสารพิษและยาฆ่าแมลงต่างๆ สิ่งเหล่านี้มีผลต่อผู้บริโภค โดยจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการพัฒนาของสมองและอวัยวะอื่นๆ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและการเผาผลาญ มันสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย และนำไปสู่โรคต่างๆอย่างเบาหวาน โรคไขข้อ โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองเสื่อม ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริกาได้มีการวิจัยพบว่า “เนื้อปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยงมีสารก่อมะเร็งที่มาจากอาหารปลาในระดับที่สูงกว่าปลาแซลมอนจากธรรมชาติถึง 16 เท่า” อีกทั้งปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์ม มีไขมันอิ่มตัวสะสมในปริมาณสูง เนื่องจากไม่ได้ว่ายน้ำหรือออกกำลังกายที่มากพอตามระยะเวลาที่ควรจะเป็นตามสัญชาติญาณทางธรรมชาติ หากรับประทานเนื้อปลาแซลมอนเข้าไปมากๆ อาจส่งผลทำให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
ดังนั้นหากจะรับประทานเนื้อปลาแซลมอน ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าเป็นเนื้อปลาแซลมอนจากทะเลโดยตรง หรือเป็นปลาแซลมอนที่ถูกเลี้ยงในฟาร์ม หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรรับประทานแต่พอเหมาะ สุขภาพของเราจะดีหรือไม่ นั่นอยู่ที่เลือกทาน