คนเรา “ถ้าไม่มีศีลธรรม” ต่อให้รักกันเพียงใด ก็ต้องจากกันอยู่ดี
ขอให้เลือกคนที่มีศีลธรรมมาเป็นคู่ครอง
เวลาที่จะเลือก คนมาเป็นคู่ครอง ไม่ควรรีบร้อน พอได้เห็นหน้าตาแล้วถูกอกถูกใจ ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจอยู่ร่วมกันเลย
ใช้เวลาทำความรู้จักกันก่อน ให้รู้ถึงแก่นแท้ก่อน อย่ารู้เพียงผิวเผิน
ต้องศึกษาให้รู้ถึงแก่นแท้ ให้รู้นิสัยสันดานว่าดีจริงหรือไม่ มีศีลทั้ง ๕ ข้อหรือไม่ ถ้ามีก็ถือว่าเป็นคนดี น่าใช้ชีวิตร่วมกัน
ถ้าจะให้เลือกระหว่างคนที่ร่ำรวยแต่ไม่มีศีลธรรม กับคนที่มีศีลธรรมแต่ไม่ร่ำรวย
ก็ขอให้เลือกคนที่มีศีลธรรมจะดีกว่า จะไม่ผิดหวัง จะไม่ เ สี ยใจ
ถ้าเลือกคนที่ร่ำรวยแต่ไม่มีศีลธรรม สักวันหนึ่งอาจจะทิ้งเราไป มีใหม่ก็ได้
เพราะเขามีเงินทอง เขาต้องการหาใหม่เมื่อไหร่ก็หาได้ จึงต้องใช้ปัญญาวิเคราะห์ศึกษา
จะมีปัญญาได้ ก็ต้องมีศีล มีสมาธิ มีทานเป็นผู้ให้การสนับสนุน
เราจึงต้องปฏิบัติตามแนวทาง ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ต้องทำบุญ ทำทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เจริญปัญญา
ใช้เหตุใช้ผล เวลาต้องการอะไร ต้องใช้เหตุใช้ผล ถามตัวเองว่าสิ่งที่อยากได้ เป็นสิ่งที่ดีจริงหรือไม่ เวลาไปซื้อของ
เช่น ผลไม้ ยังเลือกกันเลย ว่าสดหรือไม่สด เน่าหรือไม่เน่า ไม่ซื้อมาแบบสุ่มสี่ สุ่มห้าฉันใด เวลาจะเลือกใครมาเป็นคู่ครอง
ก็ต้องพิถีพิถัน ต้องเลือกให้ดีเ สี ยก่อน
การที่จะเลือกได้ดีก็ต้องมีปัญญา แล้วจะรู้จักแยกแยะว่าคนดีเป็นอย่างไร คนไม่ดีเป็นอย่างไร
จะได้คนดีมาเป็นคู่ครอง มาเป็นเพื่อน ก็จะมีความสุข เพราะคนดีจะไม่ สร้างความทุกข์ให้กับใคร
ถ้าได้คนไม่ดีมาเป็นเพื่อน มาเป็นคู่ครอง ก็จะมีแต่ความ ช้ำ อ ก ช้ำ ใ จ ไปตลอด
เพราะคนไม่ดีย่อมไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น จะเป็นคนเห็นแก่ตัว
อยากจะทำอะไรก็ทำ โดยไม่สนใจ ว่าจะไปสร้าง ความเดือดเนื้อร้อนใจ ให้กับผู้อื่นหรือไม่
แต่ คนที่มีศีลมีธรรม จะคิดอยู่เสมอว่า การกระทำ ทางกาย วาจา จะสร้างความเดือดร้อน ให้กับผู้อื่นหรือไม่
ถ้าสร้างก็จะไม่ทำ จะไม่ทำ ล า ย ชีวิตของผู้อื่น จะไม่เอาทรัพย์ ของผู้อื่น จะไม่ยุ่งกับสามีภรรยาของผู้อื่น
จะไม่โกหก ห ล อ ก ล วง จะไม่เส พ สุ ร า ย า เ มา
เมื่อไม่ทำสิ่งเหล่านี้แล้ว จะสร้างความเดือดร้อน ให้กับใครได้อย่างไร
จึงเป็นคนที่น่าชื่นชมยินดี มีคนอยากจะคบค้าสมาคมด้วย เพราะมีความสุขใจ มีความปลอดภัย