ยังทำความสะอาดของใช้ในบ้านด้วยวิธีเดิมๆ อยู่หรือเปล่า ถ้าใช่บอกเลยว่าหลายวิธีนั้นคุณทำผิดมาตลอด ที่นอกจากจะเปลืองแรงแล้วยังไม่สะอาดทั่วถึงอีกและเหล่านี้คือวิธีการทำความสะอาดแบบผิดๆ ที่อยากให้คุณลองสำรวจตัวเองว่าเผลอทำวิธีเหล่านี้หรือเปล่า
ภาพจาก simpletoilet.com
1. วางแปรงขัดโถสุขภัณฑ์ลงในที่วางทันทีที่ใช้เสร็จ
หากคุณวางแปรงขัดโถสุขภัณฑ์ลงในที่วางทันทีที่ใช้เสร็จ ความชื้นและเชื้อโรคจากชักโครก จะรวมตัวกันจนเติบโตเป็นทวีคูณอยู่ในแปรงและที่วาง ซึ่งครั้งหน้าที่คุณหยิบขึ้นมาใช้ เชื้อโรคเหล่านี้ก็กลับมาที่ชักโครกในปริมาณที่มากกว่าเดิม ดังนั้นคุณควรล้างแปรงและพึ่งให้แห้งหลังใช้เสร็จ
.
.
ภาพจาก www.ohlor.com
2. ทิ้งให้อ่างล้างมือเปียกชื้น
อ่างล้างมือไม่ว่าจะตรงส่วนระบายน้ำ หรือส่วนท่อน้ำทิ้ง ก็ล้วนแต่มีเชื้อโรคและแบคทีเรียสะสมได้ง่าย ปัจจัยหลักๆมาจากเศษอาหารหรือเส้นผม แม้กระทั้งคราบสบู่ยาสระผมและความชื่อที่ค้างอยู่ ทำให้เกิดความสกปรก ดังนั้นหลังใช้เสร็จควรล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง และใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดส่วนระบายน้ำและท่อน้ำทิ้งสัปดาห์ละครั้ง
.
.
ภาพจาก www.sanook.com
3. ทำความสะอาดพื้นเป็นลำดับแรก
ถ้าคุณกวาด เช็ด หรือดูดฝุ่นบนพื้นเป็นลำดับแรก ฝุ่นจากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะตู้ โต๊ะ เคาน์เตอร์ที่คุณทำความสะอาดทีหลังก็จะตกลงมาบนพื้น ซึ่งทำให้คุณต้องทำความสะอาดพื้นซ้ำอีกอยู่ดี ดังนั้นคุณควรจะทำความสะอาดจากบนลงมาด้านล่าง เช่นเลือกที่จะทำความสะอาดหลังตู้ หลังชั้นวางของสะก่อนและกวาด-ถูพื้นเป็นอย่างสุดท้าย
.
.
ภาพจาก monsday.com
4. ไม่เคยทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเลย
เคยมั้ยซักผ้าแล้วทำไมยังรู้สึกมีกลิ่นเหม็นอยู่เพราะหลังจากใช้งานแล้ว บรรดาเศษผิวหนังที่ตาย ฝุ่น และคราบสกปรกจากเสื้อผ้า จะยังตกค้างอยู่ในเครื่องซักผ้าเพราะคุณไม่เคยทำความสะอาดตัวถังซักเลย ดังนั้น การทำความสะอาดสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน ให้เทน้ำส้มสายชู 1 ลิตร กับเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงานโดยเปิดฝาค้างไว้ประมาณ 1 ชม. เช็ดถูทำความสะอาดตามซอก จากนั้นปล่อยน้ำ เช็ดตัวถังแล้วเปิดฝาด้านบนไว้ เพื่อปล่อยให้เครื่องแห้งสนิท
ส่วนการทำความสะอาดสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า ให้เทน้ำเปล่ากับเบกกิ้งโซดา ? ถ้วย ลงในช่องใส่ผงซักฟอก จากนั้นเทน้ำส้มสายชู 2 ถ้วยลงในตัวถังเครื่องซักผ้า ตั้งค่าให้ซักด้วยความร้อนสูงสุด เสร็จกระบวนการให้เช็ด ทำความสะอาดให้เรียบร้อยตามซอก
จำไว้ว่าให้แง้มฝาหน้าไว้ตลอดเวลาให้อากาศไหลเวียน
.
.
ภาพจาก www.liekr.com
5. เช็ดเขียงด้วยน้ำยาล้างจาน
หลายคนคงคิดว่าการทำแบบนี้เป็นการทำความสะอาดเขียงได้อย่างหมดจดแล้วใช่มั้ย จริงๆแล้วคิดผิดนะจ๊ะ ในขณะที่น้ำยาล้างจานและน้ำร้อนล้างเอาเศษอาหารที่ตามองเห็นออกไปจากเขียงได้ แต่รอยเล็กๆ ที่เกิดจากมีดบนผิวเขียงไม้และพลาสติกนั้น ยังมีเศษอาหารเล็กๆ ที่อาจจะมองไม่เห็นติดค้างอยู่ และเป็นต้นเหตุการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งสามารถกลับมาอีกบนอาหารได้อีกเมื่อเราใช้งานครั้งหน้า ดังนั้นให้ทำความสะอาดด้วยการแช่เขียงลงในไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ หรือสารฟอกขาว (สารฟอกขาว 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แกลลอน) ล้างแล้วสะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง