เวลาซื้อกระเป๋า หรือมองไปเห็นกระเป๋าตามร้านต่างๆ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมแทบจะทุกแบรนด์ต้องมีไอ้ป้ายสีเหลี่ยมๆ เอียงๆ แปะเอาไว้ ประดับตกแต่งก็ไม่น่าใช่เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้สวยขึ้น จะก๊อปกันมาก็คงไม่ใช่อีก เพราะมันคงดูโจ่งแจ้งเกินไป Gangbeauty ก็เคยสงสัย ตอนแรกนึกว่าก๊อปกัน ที่ไหนได้ ประโยชน์มีมากกว่าที่เธอคิดซะอีกนะ!
ป้ายสี่เหลี่ยมเจ้าปัญหาที่ว่า ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า “Lash Tab” (แลชแทบ) หรือ “Diamond Patch” (ไดมอนด์แพช) แต่ถ้าไปพูดแบบนี้ในร้านตัดเย็บ คุณป้าอาจจะทำหน้างงใส่เธอเอาได้ เพราะในวงการช่างเย็บผ้าไทย เรียกเจ้านี่ว่า “ปะเก็น” ซึ่งมันแปลว่าอะไรก็ไม่รู้แหละ แต่เค้าเรียกกันแบบนี้
ไอ้เจ้าปะเก็น หรือตราสี่เหลี่ยมแปะเอียงๆ มักจะเห็นได้บนกระเป๋าสะพายแบบเป้เสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะถ้าให้เด่นต้องเป็นแบรนด์ของ Herschel ที่จะถูกแปะไว้เด่นหรา เสมือนเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งจุดประสงค์ของผู้ผลิต Herschel ก็ติดมันไว้เพื่อให้หนุ่มสาวผู้คลั่งไคล้กระเป๋า ได้ห้อยพวงกุญแจเล่น สวยๆ
แต่ประโยชน์จริงๆมันไม่ใช่แค่ห้อยพวงกุญแจหรอก เพราะมันสามารถเอาสายคล้องที่เป็นลักษณะเฉพาะของบางแบรนด์มาใช้งานได้ด้วย โดยวิธีคือนำสายมาคล้องไว้กับปะเก็น เพื่อมัดผ้าหรือมัดสิ่งของยาวๆ ที่ไม่สามารถเก็บใส่กระเป๋าได้ จึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากสำหรับกระเป๋าสะพายแบบเป้ ในการเดินทางไกลหรือเดินป่านั่นเอง
ประโยชน์หลักของมันมีอยู่เท่านี้ แต่ใครจะใช้ทำอะไรได้อีกก็ตามสบาย เพราะปะเก็นไม่มีวิธีการใช้ตายตัว ออกแบบมาเพื่อให้เธอใช้งานกระเป๋าใบเดิมให้ได้มากขึ้นเท่านั้นเอง เช่นเธออาจจะเป็นสายนักปั่นจักรยาน ก็อาจจะเอาคลิปติดกับไฟกะพริบตัวเล็กมาเสียบไว้ก็ได้ หรือถ้าเป็นสายเที่ยว จะห้อยหมวก เสียบสายหูฟัง หรือติดป้ายชื่อกันกระเป๋าหายก็ทำได้เหมือนกัน
ไม่เคยใช้ประโยชน์ ก็เริ่มใช้กันได้แล้ว เสียของ!