การขู่ลูก ดุเด็ก
พ่อแม่ยุคใหม่เลิกได้แล้ว การขู่ลูก ดุเด็ก การขู่ให้ลูกกลัวส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเด็ก เลิกขู่ลูกเถอะนะ
เลิกขู่ลูก ห้ามดุด่า การขู่ให้ลูกกลัวส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเด็ก อย่าทำร้ายลูกเลยนะแม่
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ถึงการขู่ลูก ดุเด็ก ว่าอาจทำให้เกิดความกลัว จนส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก แนะสร้างความไว้วางใจกับลูกด้วยการสอนในสิ่งที่ถูกต้องและใช้เหตุผล
การขู่ลูกอาจส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการขู่ลูก ว่า วิธีการขู่ให้กลัวหรือทำให้เด็กเกิดอารมณ์ด้านลบอื่นๆ เช่น ตกใจ ขยะแขยง เป็นวิธีที่ผู้ใหญ่หลายคนนิยมใช้ เพราะเข้าใจว่าจะสามารถหยุดเด็กให้เลิกทำกิจกรรมได้ทันที เช่น
การขู่ว่าหมอจะฉีดยา
ตำรวจจะจับ
การใช้บอระเพ็ดทาที่หัวนมเพื่อให้เด็กหย่านม
วิธีขู่ลูกหรือดุเด็ก ส่งผลอย่างไร
พ่อแม่ผู้ปกครองอาจลืมคิดไปว่าการหยุดเด็กด้วยวิธีดังกล่าวมีโอกาสเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา อาทิ
เด็กอาจเกิดความกังวลและปฏิเสธ หรือหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นหรือสิ่งที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอย่างสุดโต่งไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
อาจเป็นการสกัดความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก หรือแม้กระทั่งถูกลดทอนความเข้าใจในเรื่องเหตุและผล ทำให้เด็กไม่มีความเชื่อมั่นและลดความไว้วางใจในตัวผู้ใหญ่ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้รู้สึกปลอดภัย
วิธีการขู่เด็กให้กลัวอาจส่งผลต่อเนื่อง ทำให้เด็กเสียโอกาสในการเรียนรู้ที่จะสร้างวินัยในตนเอง แทนที่จะพัฒนาตนเองให้เลือกทำในสิ่งที่ควรทำและเลือกหยุดในสิ่งที่ควรหยุดโดยตัดสินใจได้ด้วยตนเอง แต่กลับกลายเป็นการหยุดเพราะกลัวหรือหยุดเพราะตกใจ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาการปรับตัวเพื่อเรียนรู้
การเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องขู่ลูกหรือดุลูก
ในทางกลับกันพ่อแม่ควรสอนในสิ่งที่ถูกต้องและใช้เหตุผลที่เหมาะสมในการตักเตือนลูกและควรแสดงความชื่นชม เมื่อเขาแสดงพฤติกรรมที่ดีน่าชมเชย ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรเฝ้าติดตามสังเกตพฤติกรรมพัฒนาการเด็กในด้านต่างๆ ได้แก่
ความสามารถด้านการเคลื่อนไหว
การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญาด้านการใช้และเข้าใจภาษา
ด้านการช่วยเหลือตัวเองและสังคมของเด็กวัยต่างๆ
เพื่อจะได้ทราบถึงพัฒนาการแต่ละวัย พร้อมที่จะหาวิธีการส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กแต่ละด้านอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยต่อไป