คนที่ใจคับแคบ คนคิดลบ ไม่ว่าจะทำเช่นไร..
มักแปรเจตนาคำพูดของคนอื่น ไปในทางที่ผิดเสมอ
คนที่ใจกว้างใหญ่ คนที่คิดบวก ไม่ว่าจะพูดอะไร..
มักแปรเจตนาคำพูดของคนอื่น ไปในทางที่ดีอยู่เสมอ
สำคัญอยู่ที่เราเลือกเป็นใคร ใจแคบหรือใจกว้าง
คุณเห็นคนรอบข้างเป็น เหมือนผัก เหมือนหญ้า
คุณก็ถูกผักหญ้าปกคลุม คุณก็คือกระถางหญ้า
คุณเห็นคนรอบข้างเป็นเพชรนิลจินดา
คุณถูกของล้ำค่าปกคลุม คุณก็คือพานใส่เพชรนิลจินดา
ชีวิตคนเรา ต้องรู้จักมองเห็นข้อดีข้อเด่นของคนอื่น
ชื่นชมในข้อดี ลืมข้อด้อยของเขา
ใจคุณกว้างเท่าใด โลกก็กว้างตามคุณเท่านั้น
ถ้าเรารู้จักเหตุ ก็สร้างเหตุขึ้น สร้างเหตุดีๆ
ผลดีๆมันก็เกิดตามมาเอง แต่คนเราไม่ทำอย่างนั้น…
ส่วนมากต้องการอะไรดีๆ แต่ไม่คิดดีๆ ไม่ทำอะไรดีๆ
แล้วสิ่งดีๆ มันจะเกิดมาจากไหนได้ ในเมื่อใจยังแคบ
มันก็ย่อมพบแต่สิ่งที่ไม่ดี อยู่ในโลกแคบๆนั่นแหละ
เมื่อได้สิ่งไม่ดี ใจมันก็เกิดเป็นทุกข์เป็นร้อนขึ้นมาทันที
ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน
หมายความว่า… เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
รถยนต์ใช้อะไรก็หัดพอใจกับมัน
นาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้
ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน
เมื่อรู้จักพอแล้ว ก็ไม่ต้องหาเงินมาก
เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก “ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรมากกว่าการหาเงิน”
ปลาตัวหนึ่งกำลังว่ายน้ำไปข้างหนัาเรื่อยๆ
ระหว่างทาง.. ก็เจอกับปลาหลายตัวร้องตะโกนห้าม
” อันตราย…!! อย่าว่ายไปทางนั้นเชียวนะ…!! ”
” อ้าว มันอันตรายตรงไหนเหรอ…? ” ปลาตัวนั้นถามขึ้น
ปลาหลายตัวพูดขึ้นอยากแตกตื่น… “ตรงนั้นมีเหยื่อล่อเต็มไปหมด มีพวกเราหลายตัวที่ไปแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย”
ปลาตัวเดิมพูดขึ้นว่า… “เหยื่อที่ล่ออยู่ตรงนั้น มันทำอะไรเราไม่ได้หรอก เว้นแต่เราทนการยั่วไม่ไหว หลงไปงับเหยื่อเข้า มันถึงจะหลอกล่อเราได้”
เหมือนจิตใจของคุณ ยิ่งคุณใจกว้างเท่าใด
คำพูดแบบไหน กิเลสอะไรมาหลอกล่อ ก็ทำอะไรไม่ได้
แต่หากจิตใจเราแคบ โลกเราแคบเพียงใด
ต่อให้ไม่มีอะไรมาหลอกล่อ เราก็มโนคิดร้ายไปเองได้