การใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้มีผลกระทบต่อการบริโภคหรือการทานอาหารเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและกระดูกของเราโดยที่คุณไม่รู้ตัว ทั้งภาวะกระดูกพรุน กระดูกเปราะบางก่อนวัยอันควร วันนี้ gangbeauty จึงมาเตือนถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงกันค่ะ !!
1. กาแฟ
บางคนเช้าตื่นมาดื่มกาแฟเป็นอันดับแรกก่อนน้ำเปล่าเสียอีก แต่รู้ไหมว่า กาแฟแค่วันละ 2 แก้ว ก็เสี่ยงที่จะทำให้กระดูกเปราะบางได้ เพราะกาเฟอีนทำให้กระดูกเปราะบางได้ เพราะกาเฟอีนทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ เราดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว 1 ปีก็เท่ากับดื่มกาแฟไป 700 กว่าแก้ว ถ้า 10 ปีก็ 7,000 แก้ว คิดดูแล้วกันว่ากาเฟอีนที่สะสมอยู่นั้นพร้อมจะทำลายแคลเซียมในกระดูกได้มากแค่ไหน
2. น้ำอัดลม
ใครดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ มีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนมากกว่าผู้ไม่ดื่ม 3-4 เท่า แม้จะมีงานวิจัยระบุว่าปริมาณกรดในน้ำอัดลมโดยเฉลี่ยมีปริมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของกรดที่ร่างกายสร้างขึ้นจากกระบวนการเมตาบอลิซึม ปริมาณเพียงเท่านี้ไม่สามารถขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของกระดูกได้ หรืออาจกล่าวได้ว่าก๊าซที่อัดลงไปในโซดาไม่มีผลเสียต่อการดูดซึมเกลือแร่ของกระดูก แต่ส่วนประกอบอื่นๆ จากโซดาอาจแย่งแคลเซียมจำนวนเล็กน้อยไปจากกระดูกเราได้ แต่ร่างกายก็สามารถฟื้นคืนภายในเวลา 24 ชั่วโมง
3. อาหารโรคเกาต์
แม้ว่าโรคเกาต์จะไม่ได้มีผลกระทบกับกระดูกโดยตรง แต่ก็มีความสัมพันธ์กัน โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบ ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดตามข้อ ในระยะยาวโรคเกาต์ที่เป็นตามข้อต่างๆ จะทำลายกระดูกอ่อนของผิวข้อทำให้เกิดโรคข้อเสื่อมตามมา อาหารปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเกาต์ คือ ไก่ เป็ด สัตว์ปีกอื่นๆ และยอดผัก เช่น หน่อไม้ดอง รวมไปถึงผลไม้และเครื่องดื่มที่หวานจัด ซึ่งมีน้ำตาลฟรักโทสอยู่เป็นจำนวนมาก
4. อาหารสำเร็จรูป/อาหารเค็ม
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมอบกรอบขบเคี้ยว อาหารประเภทนี้มักมาพร้อมผงชูรส ซึ่งเป็นแหล่งของเกลือโซเดียม นอกจากจะมีผลเสียต่อไตแล้ว หากกินโซเดียมมากเกินไปร่างกายขับน้ำ ออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น ขับโซเดียม รวมถึงขับแคลเซียมออกมาด้วย
5. ยาบางชนิด
ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคเบาหวาน ยาป้องกันอาการชัก ฮอร์โมนไทรอยด์ หากกินเป็นประจำจะสะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อความหนาแน่นของเนื้อกระดูกที่ลดลง
6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์เป็นตัวขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย รวมทั้งทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มมากขึ้น
ภาพปกประกอบจาก : pixabay.com