สำหรับคุณแม่ที่ลุ้นอยากมีลูกน้อยทุกวัน ก็คงตั้งหน้าตั้งตารอสัญญาณเตือนต่างๆ ที่บ่งบอกว่าตัวเองกำลังจะมีข่าวดี วันนี้เรามาลองเช็คกันดูดีกว่าว่าสัญญาณเตือนอะไรบ้าง ที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะมีลูกน้อยและกำลังจะเป็นคุณแม่แล้ว
1.ประจำเดือนไม่มา
การที่ประจำเดือนขาดคือ สัญญาณแรกที่ผู้หญิงเราเริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีข่าวดี ดังนั้นเมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติ เลยจากกำหนดมาประมาณ 10 วัน ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจกำลังตั้งครรภ์
2.หน้ามืดวิงเวียนศีรษะ
อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหน้ามืดและมีอาการวิงเวียนศีรษะ นี่คือหนึ่งในสัญญาณเตือนของคนที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะอาการเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายต้องส่งเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงตัวอ่อนและมดลูกมากขึ้น จึงส่งผลทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลงไปจากเดิม ทำให้เกิดอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้
3.มีอาการคลื่นไส้อาเจียน
คนที่กำลังจะมีข่าวดีเรื่องลูก มักมีอาการคลื่นไส้อยากอาเจียน มีความอยากกินของเปรี้ยวหรือของดองต่างๆ บางครั้งก็มีความรู้สึกอยากกินของแปลกๆ นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนภายในร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น รวมทั้งร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนชนิดที่เรียกว่า Human Chorionic Gonadotropin ซึ่งส่งผลให้ผู้หญิงมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและอ่อนเพลีย ทำให้ระบบประสาทสั่งการให้อยากกินของเปรี้ยวนั่นเอง
4.เจ็บเต้านม
เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ก็จะมีอาการเจ็บเต้านมแบบแปลบๆ ขนาดของเต้านมจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมมีเส้นเลือดนูนที่เต้านม และมีปุ่มเล็กๆ เกิดที่บริเวณหัวนม นอกจากนี้หัวนมจะไวต่อความรู้สึกอีกด้วย
5.มีอาการปวดเกร็งที่ท้องน้อย
อาการปวดเกร็งที่ท้องน้อย เป็นอาการคนท้องที่เกิดจากไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้วไปฝังตัวอยู่ที่ผนังมดลูกจึงทำให้มีเลือดออกมา ส่งผลทำให้มีอาการปวดเกร็งที่ท้องน้อย รู้สึกไม่สบายท้อง ท้องอืด และมีอาการคล้ายกับตอนมาประจำเดือน
6.ปวดหลังมากกว่าปกติ
ในช่วงตั้งครรภ์จะมีอาการปวดหลังมากกว่าปกติ เนื่องจากเส้นเอ็นที่ยึดกระดูกสันหลังเกิดการคลายตัว ทั้งนี้เพื่อเตรียมรับน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นของลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง
7.ปัสสาวะบ่อย
หากปัสสาวะบ่อยและน้ำฉี่มีสีเหลืองเข้ม นั่นเป็นไปได้ว่าคือสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ เพราะอาการดังกล่าวเกิดจากการที่มดลูกมีการขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดการบีบตัว และทำให้ปวดปัสสาวะอยู่บ่อยๆ
สัญญาณเตือนต่างๆ เหล่านี้คือ อาการคนท้องแรกเริ่มที่ถือว่าปกติ โดยเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถเช็คได้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ แต่เพื่อความชัวร์หลังจากที่มีสัญญาณเตือนต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว แนะนำให้คุณแม่เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการและเช็คได้ว่าตั้งครรภ์จริงหรือเปล่า ทั้งนี้หากตั้งครรภ์จริง ก็จะได้เตรียมตัวฝากครรภ์ในลำดับต่อไปนั่นเอง