พอจนก็ย่ำยี พอมีก็มาขอยืม? เสียเพื่อนไปหลายคนแล้วแบบนี้
ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมเงิน ส่วนคนยืมเงินเขา แล้วคืนเถอะ !
หากคุณเคยให้เพื่อนหรือใครสักคนยืมเงิน เชื่อว่าคงจะเข้าใจลึกซึ้ง ถึงความหมายของประโยคที่ว่า
พอจนก็ย่ำยี พอมีก็มาขอยืม? หลายๆมิตรภาพ ต้องมาสิ้นสุด
จบลง พังลง เพราะ เรื่องเงินๆทองๆ พอไม่มีเพื่อนที่ไหนก็ไม่อยากคบ หายหัวหมด
แต่พอมั่งมีขึ้นมา ไม่รู้เพื่อนมาจากไหนมากมาย ( แต่ส่วนใหญ่เข้ามายืมเงินแล้วก็ไป )
“ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมเงิน” ตอนมายืมสุดเศร้า เล่าความลำบาก
แต่เมื่อถึงกำหนดไม่ยอมคืน บางคนต้องบากหน้าไปทวง แต่ก็ยังไม่ได้คืน
ต้องเสียเพื่อนไปเพราะเงินไม่เท่าไหร่มาหลายคนแล้ว
แม้เราจะทำอะไรเขาไม่ได้ แต่บาปกรรมทำหน้าที่ของมันเสมอ
ให้คนอื่นยืมเงิน ไม่ต่างอะไรไปจากการจ่ายเงินซื้อศัตรู?!!
เริ่มต้นเพราะอยากช่วย สุดท้ายความซวยจะมาเยือน
อย่าเอะอะก็อยากยืมเงินใครๆ และอย่าอะไรๆก็ให้เงินเขายืม
ความสูญเสียหลังจากให้เงินคนอื่นยืมไม่ใช่เงิน แต่เป็นมิตรภาพ?!
ส่วนมาก คนที่ให้เงินเขายืมเงินมักจำได้ แต่คนที่ไปยืมเงินเขามามักจะลืม
คนให้ยืมไม่กล้าทวง คนยืมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
คนให้ยืมกลับรู้สึกกระอักกระอ่วน ส่วนคนยืมกลับไม่รู้สึกอะไร!
คนที่ถูกยืมเงินกลัวถูกยืมเป็นครั้งที่สอง เอาไปเอามา เสียทั้งเงินเสียทั้งเพื่อน
ก่อนมายืมเงิน คบหาเป็นเพื่อน หลังยืมเงินไปกลายเป็นพี่ใหญ่
พอเอาเงินมาคืนทำตัวยังกับเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่
อย่าให้คนที่ไม่สนิทยืมเงิน เพราะคนที่เขาสนิทไม่มีใครให้เขายืมแล้ว
เน้นน้ำใจไมตรี ช่วยเหลือกันด้านอื่นๆจะดีกว่า เรื่องเงินๆทองๆ มันไม่เข้าใครออกใคร