งานวิจัยชิ้นล่าสุดพบว่า แปดในสิบคนมีการนำโทรศัพท์มือถือวางไว้ข้างๆตัวเองในเวลานอนตอนกลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เพื่อใช้มันตั้งนาฬิกาปลุก คราวหน้า หากคุณนอนไม่หลับตอนกลางคืน ลองเอามือถือของคุณออกไปจากห้องนอนดู ความใกล้ชิดกับโทรศัพท์มือถือสามารถรบกวนการนอนหลับที่ดีของคุณ
ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และปัญหาการนอนหลับต่างๆ พยายามนอนอยู่ในห้องที่ไม่มีมือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์อื่นๆ การนอนของคุณจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ นอนกับโทรศัพท์มือถืออาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวและเวียนหัวได้อีกด้วย
ตามความเห็นของดร.ชาร์ลส์ เซสเลอร์ ปัญหาหลักของโทรศัพท์มือถือคือ แสงประดิษฐ์ของมันส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรา สมองของเราจะถูกหลอกให้เชื่อว่าเป็นเวลากลางวัน แสงช่วยกระตุ้นเซลล์ในจอประสาทตา พื้นที่บริเวณรอบๆข้างดวงตาที่ส่งข้อความไปยังสมอง เซลล์ไวต่อแสงจะให้ข้อมูลต่อร่างกายของเราว่ามันเป็นเวลากลางวัน
-การวางโทรศัพท์อยู่ข้างๆหมอนบ่อยๆ รังสีจากโทรศัพท์มือถือจะมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง จะทำให้เกิดอาการปวดหัว เวียนหัว ผมร่วงหรือโรคนอนไม่หลับและอาการอื่นๆ เวลานอนอย่าวางโทรศัพท์ที่ข้างๆตัว แม้ว่าปิดโทรศัพท์ไว้แล้ว ยังมีรังสีโทรศัพท์ปล่อยออกมา ควรวางไว้ไกลๆ
-แขวนโทรศัพท์ไว้ที่หน้าอก เพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์หาย แต่เพราะว่าใกล้กับหัวใจมากเกินไป จะมีผลที่ไม่ดีต่อหัวใจ และยังมีผลกระทบกับระบบต่อมไร้ท่อ
-ใส่โทรศัพท์ในกระเบ๋ากางเกง เอวและท้องใกล้กับระบบสืบพันธุ์มาก รังสีโทรศัพท์มือถือจะฆ่าสเปิร์มและไข่ได้ จะส่งผลกระทบต่อการมีลูก
-ใช้โทรศัพท์เล่นอินเทอร์เน็ตหรืออ่านข่าวสารเป็นเวลานาน รังสีโทรศัพท์มือถืออาจทำให้เกิดมะเร็งที่ตาได้
-เวลากดรับโทรศัพท์ รังสีจะแรงมาก อย่ารีบนำมาใกล้กับหัว
-โทรไม่เกิน1-2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะรังสีจะสะสม ปริมาณรังสีของการโทรออกและรับสายจะแตกต่างกัน รังสีของการโทรออกจะแรงกว่ารับสาย
-อย่าฟังโทรศัพท์ด้วยหูข้างเดียวเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนหูบ้าง
-เวลาโทรพยายามใช้หูฟัง ตราบใดที่โทรศัพท์ห่างจากศีรษะ 30CM ขึ้นไป รังสีก็จะลดลง
-เมื่อสัญญาณโทรศัพท์อ่อนควรคุยโทรศัพท์ให้น้อยที่สุด เพระว่าถ้าโทรศัพท์ห่างไกลจากสถานีปล่อยสัญญาณมาก รังสีของโทรศัพท์จะมีความแรงมาก
-เวลาแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ต่ำ รังสีก็ยังแรงมาก ไม่ควรรับสายในตอนนี้