ไม่แปลกที่บางคนนานๆเจอกันทีก็อยากที่จะรู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายว่า ตอนนี้เป็นยังไง ทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน กับใคร บลาๆ คำถาม108 แต่คุณรู้หรือไม่บางคำถามที่มักจะเป็นคำถามแรกๆที่หลายคนหยิบมาถามเป็นคำถามที่เสียมารยาทแบบที่คุณเองไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าถามไปเพราะความเป็นห่วง หรืออยากรู้ความเคลื่อนไหว แต่บอกเลยว่าเป็นคำถามที่เสียมารยาทแบบสุดๆ คนถามอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่คนที่ถูกถามนี่สิ เห้อออออ
น้ำหนักเท่าไหร่ / อ้วนขึ้นหรือเปล่า / เมื่อไหร่จะผอม
ก็รู้ๆกันอยู่เรื่องของน้ำหนักโดยเฉพาะกับผู้หญิง เป็นคำถามที่ตบหน้ายังรู้สึกเจ็บน้อยกว่าเจอคำถามนี้ เพราะจะทำให้คนที่ถูกถามรู้สึกอาย และไม่มั่นใจ ต่อให้เค้าจะมั่นใจในรูปร่างของเค้าอยู่แล้ว คุณก็ไม่ควรจะถามคำถามนี้ออกไปเพราะมันเป็นการก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวแถมเสียมารยาทมากๆอีกต่างหาก หรือหากต้องการแนะนำหรือให้คำปรึกษา ก็ควรเลือกใช้คำให้เหมาะสม การถามเกี่ยวกับน้ำหนัก หรือการแสดงความคิดเห็นถึงรูปร่างหน้าตาของผู้อื่นนั้น จึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังให้มากค่ะ
ภาพจาก pinterest
ทำไมถึงคบกับแฟนคนนี้ / ทำไมถึงเลิกกับแฟนเก่า / ลืมแฟนเก่าได้หรือยัง / แฟนเก่ามีคนใหม่หรือยัง
เป็นคำถามที่บอกเลยว่าขนาดครอบครัวหรือเพื่อนสนิทบางคนยังไม่เล่าให้ฟังหากว่าคุณเป็นคนนอกวงโคจรมากๆก็ไม่ควรถามคำถามนี้ออกไปอย่างยิ่งแม้เจตนาของคุณจะเป็นห่วงหรืออยากรู้ความเคลื่อนไหว ควรจะให้อีกฝ่ายเป็นคนที่เปิดใจเล่าด้วยตัวเองดีกว่า อาจจะถามว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?” ถ้าเค้าอยากจะระบายหรือเล่าอะไรเคาก็จะพูดระบายออกมาเอกแหละ ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคนต่อไปดีกว่าค่ะ
ทำไมต้องประหยัดขนาดนั้น / ทำไมเงินเดือนน้อย / ทำไมเงินเดือนไม่พอใช้ล่ะ / เงินเดือนพอใช้หรือเปล่า / เป็นหนี้เหรอ
บางบริษัทมีการออกกฎไม่ให้เปิดเผยเงินเดินหรือค่าตอบแทนให้กับผู้อื่น เนื่องจากเรื่องเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเป็นข้อมูลส่วนตัว หลายคนจึงไม่อยากเปิดเผยจำนวนเงินให้ใครทราบ บางคนมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ก็อาจจะไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้ใครถามถึง หรือบางคนเค้ามีเงิน แต่เค้าแค่อยากที่จะประหยัดเพื่อเก็บเงินสร้างอนาคต ดังนั้นไม่ควรถามคำถามพวกนี้เป็นอย่างมาก มันเสียมารยาทสุดๆไปเลย
ภาพจาก pinterest
ชอบผู้ชายใช่ไหม / เป็นตุ๊ดใช่ไหม / ชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย / “เป็น” ใช่ไหม
คำถามแนวนี้นอกจากจะเสียมารยาท สร้างความอึดอัดลำบากใจให้ผู้ตอบแล้ว ยังเป็นการไม่เปิดกว้างให้กับความหลากหลายทางเพศอีกด้วย ดังนั้นจะต่อให้เค้าใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่ควรจะไปยุ่งกับเรื่องของเค้าจะดีกว่านะจ๊ะ ต่อให้คนๆนั้นจะใช่ เป็นเกย์ เป็นตุ๊ด อย่างน้อยเค้าก็มีจิตใจเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ
ทำไมถึงยังไม่มีแฟน
เป็นคำถามที่ถ้าใครที่ถูกถามแบบนี้คงถอนหายใจและมองบนรัว และคุณก็ไม่ควรที่จะถามคำถามนี้ด้วยซ้ำเพราะบางคนเค้าก็ชอบที่อยากจะอยู่คนเดียว หรือบางคนเค้าก็อยากมีใจจะขาดแต่มันไม่มีจะให้ทำไงได้ ไม่มีก็คือไม่มี มีก็คืออวดลงโซเชียล ไม่ต้องรอให้ใครมาถามแล้วม่ะ เผลอคำถามนี้เป็นคำถามที่แทงใจดำสุดไปเลย อย่าถามเลยเชื่อเถอะ เปลี่ยนคำถามจ้า
ภาพจาก pinterest
เมื่อไหร่จะแต่งงาน
ทุกสิ่งทุกอย่างมีเวลาที่เหมาะสมของมันเอง เรื่องการแต่งงานก็เช่นกัน คู่รักทุกคู่ไม่จำเป็นจะเดินไปสู่จุดหมายที่การแต่งงานเสมอไป และการแต่งงานก็ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่าความรักจะยั่งยืนตลอดไปอีกด้วย คู่รักทุกคู่มีสิทธิที่จะเลือกใช้ชีวิตตามแบบที่ตนเองต้องการ เลือกที่จะแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ และสามารถเลือกช่วงเวลาที่อยากแต่งงานด้วยตนเองการถามว่า “เมื่อไหร่จะแต่งงาน” ซ้ำแล้วซ้ำอีก บางครั้งอาจกลายเป็นการกดดันคู่รักไปเสียอีกค่ะ
ไปทำอะไรมา ทำไมดำขึ้น / ทำไมสิวขึ้น / ทำไมโทรม
นอกจากการถามเรื่อง “รูปร่าง” แล้ว คำถามเกี่ยวกับ “หน้าตา” ก็เป็นคำถามยอดนิยมที่ทำให้ผู้ถูกถามรู้สึกเสียความมั่นใจ เพราะคนที่ถูกถามเค้าก็ไม่ได้อยากที่จะมีสิว หรือ หน้าโทรม ถามแบบนี้เสียมารมากๆ ทำให้คนที่ถูกถามรู้สึกแย่แม้ตอนที่เค้าตอบหน้าตาอาจจะดูยิ้มแย้ แต่ลึกแล้วคุณรู้หรือไม่เป็นคำถามที่แทงใจ สุดๆไปเลย
ภาพจาก pinterest