อาการปวดหัวไมเกรน รุนแรงกว่าอาการปวดศีรษะธรรมดา สาเหตุหลักเกิดจากความเครียดเล็กๆน้อยๆ เครียดสะสม อันที่จริงไมเกรนคือ ความผิดปกติทางระบบประสาทไตรเจอมินอล (trigeminal nerve) ซึ่งปัจจัยภายนอกก็มีส่วน เช่น อากาศร้อน การเห็นแสงจ้า รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง และโรคไมเกรน เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยประมาณ 1 ใน 5 ของผู้หญิง และ 1 ใน 15 ของผู้ชาย
1. ไมเกรนไม่ใช่อาการปวดศีรษะจากความเครียดระดับเบา
ไมเกรนกับอาการปวดศีรษะจากความเครียดมีลักษณะที่แตกต่างกันมาก อาการปวดศีรษะจากความเครียดจะรู้สึกบีบรัดเบาๆถึงปานกลางบริเวณหน้าผาก คอ และขมับ หากมีอาการปวดศีรษะรุนแรงหรือรู้สึกปวดตุบๆไปพร้อมกับอาการไวต่อแสงและเสียงหรือรู้สึกคลื่นไส้ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจเป็นไมเกรน
อาการอื่นๆของไมเกรนคือการไวต่อกลิ่น ผิวไวต่อสิ่งเร้าหรือแรงกด และระบบประสาททำงานผิดปกติ นอกจากนี้ไมเกรนยังมี “ระยะอาการเตือน” ซึ่งจะปรากฏจุดขึ้นมาครอบคลุมลานสายตาไปครึ่งหนึ่ง หากใครมีอาการปวดศีรษะหรือเป็นไมเกรนนานเกินกว่าครึ่งเดือนก็จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง
2. ไมเกรนจะทำให้ประสาทสัมผัสไวต่อส่วนที่รับสัญญาณเข้ามากเป็นพิเศษ
ไมเกรนสามารถทำให้ประสาทสัมผัสทั้งระบบไวเป็นพิเศษไม่ว่าจะต่อเสียง กลิ่น และแสง คุณจะรู้สึกเหมือนติดกับเนื่องจากสิ่งเร้าเหล่านั้นอยู่ทั่วไปหมดทุกที่ เช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศ เสียงดังโหวกเหวก เสียงเครื่องซักผ้า เสียงเด็กหัวเราะหรือวิ่งไล่จับกัน ด้วยเหตุนี้ผู้ที่เป็นไมเกรนจึงมักจะชอบอยู่เงียบๆ ในห้องมืดๆ และเย็นๆในขณะที่มีอาการ
3. ผู้ที่เป็นไมเกรนไม่อยากทำให้คุณผิดหวังและเกลียดการอธิบายอาการของตัวเอง
เมื่อคุณป่วยเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน คนอื่นๆจึงไม่ค่อยเข้าใจคุณสักเท่าไหร่ เช่น เมื่อคุณนอนบนเตียงในห้องที่เปิดม่านหรือทีวีไม่ได้เนื่องจากคุณไม่สามารถทนต่อแสงหรือเสียงได้ ทว่ากลับไม่มีใครเข้าใจคุณเลย หรือเมื่อคุณต้องยกเลิกนัดที่อุตส่าห์วางแผนล่วงหน้าไว้ตั้งหลายสัปดาห์เนื่องจากคุณไม่สามารถเดินทั้งที่ปวดหัวตุบๆได้ แต่ก็ยังมีคนไม่เข้าใจคุณ อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นไมเกรนการอยู่เฉยๆให้มากที่สุดจะเป็นทางแก้ที่ดีที่สุด
4. ไมเกรนทำให้อารมณ์แปรปรวนได้
ไมเกรนสามารถ “แทรกแซงทุกสิ่งได้” ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ หรือที่เลวร้ายสุดๆคือมันจะทำให้คุณอยากตายเพื่อให้ความเจ็บปวดนี้สิ้นสุดลงเสียที ขณะเดียวกันเมื่อคุณรู้สึกโกรธหรือเครียดอารมณ์ก็จะไต่ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นไมเกรนในที่สุด
5. บางครั้งไมเกรนก็ไม่ทำให้รู้สึกปวด
ไมเกรนไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกปวดศีรษะตุบๆเสมอไป ไมเกรนบางชนิดอาจมีระยะอาการเตือนโดยที่ไม่มีอาการเจ็บปวดโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่นลานสายตาบางส่วนของคุณอาจถูกบดบังขณะที่ไมเกรนบางชนิดอาจทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ไมเกรนไม่ใช่อาการปวดศีรษะธรรมดา โปรดอย่าพูดว่า “ปวดหัวเหรอ?” ถ้ารู้ว่าฉันเป็นไมเกรน
6. ไมเกรนไม่ได้แปลว่าคุณจะเคลื่อนไหวไม่ได้เสมอไป
ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นไมเกรนมักจะหนีไปนอนเงียบๆคนเดียวในห้องมืดๆเย็นๆ แต่การที่บางคนยังเดินไปไหนมาไหนได้ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่รู้สึกเจ็บปวด บางครั้งพวกเขาแค่ต้องการเก็บซ่อนอาการไว้เท่านั้นเอง นอกจากนี้อาการไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นก็อาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน หรือแม้แต่การสัมผัสไหล่หรือแขนก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้ ทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่าพวกเขาเรียกร้องความสนใจหรือกุอาการขึ้นมานะแต่เป็นเพราะการตอบสนองของระบบประสาทต่างหาก ไมเกรนทำให้คุณรู้สึกอ่อนแอได้จริงๆ
7. การให้กำลังใจคือสิ่งสำคัญ
คุณสามารถดูแลความเรียบร้อยของสภาพแวดล้อมเพื่อไม่ให้ไปรบกวนส่วนที่รับสัญญาณเข้าของพวกเขาได้ หมั่นให้พวกเขารับประทานอาหารและดื่มน้ำอย่างเหมาะสม บางครั้งการนวดศีรษะหรืออวัยวะส่วนอื่นๆก็อาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ อย่างไรก็ดีควรถามก่อนเนื่องจากผู้ที่เป็นไมเกรนบางคนอาจรู้สึกไวต่อแรงกดหรือการสัมผัสขณะที่มีอาการ
สุดท้ายโปรดอย่าเหมารวมว่าอาการปวดศีรษะของตัวเองจะเหมือนกับอาการปวดศีรษะไมเกรนโดยเฉพาะในขณะที่มีอาการ ทางที่ดีอย่าพูดว่า “นี่ฉันกินยาเอ็กซิดรินสองเม็ดก็หายแล้ว เธอก็ลองกินบ้างสิ” อย่าลืมว่าสิ่งที่พวกเขาเผชิญอยู่มันรุนแรงกว่าอาการปวดศีรษะธรรมดามาก