เวลาเครียดแล้วสิวขึ้น หรือมารู้ตัวอีกทีตอนสิวขึ้นแล้วรู้สึกเครียดและต้องการจัดการกับ “สิว” ให้หายไปเร็วๆ จนอดใจไม่ไหวที่ต้อง บีบ กด และแกะสิว แต่เดี๋ยวก่อน! หยุดหงุดหงิด และหันมาจัดการกับความเครียด ไม่แกะสิว ก่อนที่สิวจะอักเสบและทวีความรุ่นแรงยิ่งขึ้น
ตามผลการวิจัยเรื่องผิว พบว่าความเครียดและสิวมีความเกี่ยวข้องกันแบบแยกไม่ออก โดยมีผลวิจัยจาก ภาควิชาโรคผิวหนังและกามโรค มหาวิทยาลัยซาเกร็บประเทศโครเอเชีย ในปี ค.ศ 2017 พบว่าสภาพจิตใจและความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรคสิว เนื่องจากความเครียดทางอารมณ์ส่งผลต่อการผลิตของฮอร์โมนบกพร่องซึ่งส่งผลต่อการเกิดสิว โดยในบทสรุปให้คำแนะนำว่าการรักษาสิวนั้น แพทย์ผิวหนังควรตระหนักถึงปัจจัยทางจิตวิทยาที่นำไปสู่การเกิดสิว รวมถึงการรับรู้ภาวะความเครียดของผู้ป่วยที่เป็นสิวเองด้วย ผสมผสานการรักษาแบบสหวิทยาการกับผู้เป็นสิวที่ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องแพทย์ผิวหนังเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ด้วย นอกจากนั้นยังมีการวิจัยจาก King Abdulaziz University, Jeddah, Saudi Arabia 2017 ซึ่งศึกษาในนักศึกษาแพทย์หญิง อายุ 22-24 ปี พบว่า ความรุนแรงของความเครียดมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของสิวอีกด้วย อย่างไรก็ตามนักวิจัยบางท่านมีความเห็นว่าจะต้องมีการวิจัยต่อไปเกี่ยวกับระดับความสัมพันธ์ของความเครียดกับการเกิดสิวเพื่อที่จะได้วางแผนป้องกันและรักษาสิวจากความเครียดได้ดียิ่งขึ้น
ดร.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.เอ.เดอร์มาเทค จำกัด ผู้นำด้านการผลิต-วิจัยและพัฒนา เครื่องสำอางและเวชสำอางที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 22716/ COSMETICS GMP ระดับสากล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสเปรย์สิว “โอลด์ร๊อค แอคเน่ สเปรย์” ช่วยลดสิว ผิวเย็น และ หน้าไม่มัน ด้วยสารสกัดจากหินน้ำมันจากฝรั่งเศสบริสุทธิ์ กล่าวว่า สาเหตุจากการเกิดสิว เกิดจากหลายอย่าง เช่น อาหาร ฮอร์โมน พันธุกรรม สภาพวะแวดล้อม หรือจากความเครียด สำหรับความเครียด เกิดขึ้นได้จากการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะมาจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และมลภาวะ รวมถึงความกดดันจากการทำงาน หรือการเรียน ล้วนเป็นปัจจัยให้เกิดความตึงเครียดได้ง่าย
สำหรับภาวะเครียดที่ส่งผลให้ปัญหาสิวลุกลามนั้น ดร.จิรวรรณ? ขยายความว่า เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ไม่ว่าจากเรื่องการเรียน การสอบ การทำงาน อกหัก สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ นอนไม่หลับ หรือหลับแต่ไม่สนิท เพราะสมองจะพะวงกับการครุ่นคิดในสิ่งนั้นๆ ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียด ที่ชื่อว่า คอร์ติโซล (Cortisol) ที่มีผลกระตุ้นให้ต่อมไขมันบนผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาเยอะเกินความจำเป็น
“น้ำมันที่ผลิตโดยต่อมไขมันบนใบหน้า มีหน้าที่สำคัญ คือ ช่วยหล่อเลี้ยงผิวหน้าให้ดูชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี แต่เมื่อร่างกายมีภาวะเครียด ฮอร์โมนคอร์ติโซลจะถูกหลั่งออกมาและกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมากกว่าปกติ ทำให้น้ำมันถูกผลิตออกมาเกินจำเป็น ผสมกับเซลล์ผิวเก่าบนใบหน้าที่ผลัดออกไม่หมด หรือผสมกับสิ่งสกปรกบนใบหน้าทั้งจากมลภาวะ หรือเครื่องสำอางที่ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ จึงทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน จนกลายเป็นสิวอุดตันได้ในที่สุด” ดร.จิรวรรณ ไขข้อข้องใจ
ลดเครียด ลดสิว
“สิว” ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจและความมั่นใจ เพราะสิวทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ จึงทำให้ไม่อยากเข้าสังคม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสิวรุนแรงอาจจกระทบกับอารมณ์และความรู้สึกจนเกิดความหดหู่สะสมกลายเป็นโรคเครียดและโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นสิวที่เผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ต้องปรับทัศคติและจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตนเองให้ได้ และ “ให้กำลังใจตนเอง” ว่า “สิวรักษา” ได้
ดร.จิรวรรณ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าวิธีรักษาสิวและความเครียดมีความสัมพันธ์กัน จึงแนะนำวิธีการบรรเทาปัญหาสิวโดยแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ
1.การรักษาสิวจากภายใน ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และจิตใจ โดยหาวิธีผ่อนคลายความตึงเครียดและทำจิตใจให้แจ่มใส ด้วยการทำงานอดิเรกที่ชอบ เช่น ท่องเที่ยว ดูหนัง ทำบุญ ใช้เวลาอยู่กับเพื่อน และคนรัก รวมถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอซึ่งจะช่วยลดภาวะเครียดได้ เช่น เล่นโยคะ ฝึกสมาธิ และจัดตารางพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้อย่างปกติและไม่ผลิตน้ำมันส่วนเกินมากเกินไปเมื่อร่างกายขาดการพักผ่อนซึ่งเป็นสาเหตุของสิวอุดตัน และการพักผ่อนที่เพียงพอยังช่วยทำให้โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ทำงานได้เต็มที่ ช่วยให้ผิวสดใส เปล่งปลั่งและเพิ่มความชุ่มชื่น นอกจากนั้นควรทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารมัน หรือของทอด ก็จะช่วยบรรเทาความรุนแรงของสิวได้
2.การรักษาสิวภายนอก โดยการดูแลผิวเป็นสิวอย่างถูกวิธี โดยเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน เลือกใช้สกินแคร์สำหรับผู้เป็นสิว และ มีสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil free) และใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวภายใต้คำสั่งแพทย์ หรือ เภสัชกร หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหากไม่จำเป็น แต่หากจำเป็นต้องแต่งหน้าเพื่อความมั่นใจสามารถใช้สเปรย์สิว “โอลด์ร๊อค แอคเน่ สเปรย์” ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดหินน้ำมันธรรมชาติบริสุทธิ์จากฝรั่งเศส สเปรย์ให้ทั่วใบหน้าก่อนลงสกินแคร์หรือก่อนแต่งหน้าเพื่อช่วยลดการสิวอุดตัน และช่วยให้ผิวเย็นสดชื่น และช่วยลดความมันบนใบหน้าระหว่างวัน อีกทั้งยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานเรียบเนียนด้วย
ซึ่ง “โอลด์ร๊อค แอคเน่ สเปรย์” ผ่านการทดสอบการแพ้ระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนั และที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของ BHA ซึ่งมีความเป็นกรดสูง จึงอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งลอก ไม่ไวต่อแสง สามารถใช้ได้กับผิวเป็นสิวทุกประเภท นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยลดรอยแดงและอาการคันจากการเป็นสิวได้ด้วย
ดร.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ สรุปทิ้งท้ายว่า ความเร่งรีบในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงานภายใต้ความกดดัน รวมถึงการเผชิญหน้ากับมลภาวะของสิ่งแวดล้อมรอบตัว ล้วนทำให้เกิดความเครียดซึ่งกระตุ้นให้เกิดปัญหาสิวอุดตันตามมา และปัญหาสิวจะทวีความรุนแรงหากไม่จัดการกับความเครียด
ดังนั้นแนวทางการแก้ปัญหาต้องปรับสภาพจิตใจ และความคิดให้เกิดทัศนคติเชิงบวก ให้กำลังใจตนเอง และทำงานอดิเรกที่ชอบเพื่อลดความเครียดที่จะไปกระตุ้นให้เกิดปัญหาสิวรุกลาม และหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิว รวมถึงดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี ร่วมกับการใช้เวชสำอางดูแลปัญหาสิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อช่วยเสริมสร้างให้โครงสร้างผิวกลับมาแข็งแรง เพื่อช่วยลดการสะสมของสารเคมีอันตรายบนใบหน้า เมื่อจัดการกับความเครียดได้แล้ว ผนวกกับการรักษาที่ถูกวิธี ปัญหาสิวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป