ค่าไฟถูกลงเป็นพัน น้อยคนที่รู้วิธีนี้ เปิดแอร์ทั้งวันก็ไม่เปลือง
บ้านเราเป็นประเทศเมืองร้อน ยิ่งช่วงหน้าร้อนแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ต้องใช้แอร์ ในปัจจุบันแอร์จึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกันทุกบ้าน เพื่อคลายร้อน แต่ยิ่งอากาศร้อนก็ต้องยิ่งเปิดแอร์แรง ยิ่งเปิดแอร์แรงค่าไฟก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาก
โดยปกติเราเปิดแอร์วันละประมาณ 8-10 ชั่วโมง ค่าไฟประมาณ 3.5 บาท/หน่วย จะต้องเสียค่าไฟปีละประมาณ 15,000 – 20,000 บาท เรียกได้ว่าค่าไฟที่ใช้เปิดแอร์ไป 1 ปี สามารถซื้อแอร์ตัวใหม่ได้ 1 เครื่องเลยละ
เราเคยได้ยินมาว่า ควรเปิดแอร์ไว้ที่ 25 องศา เพื่อประหยัดไฟ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะ 25 องศา คือค่ามาตรฐานที่บริษัทผู้คิดค้นแอร์ ( ซึ่งอยู่ที่ต่างประเทศ ) แนะนำมา ไม่ได้เหมาะกับอากาศบ้านเราสักเท่าไรนัก
หลักการทำงานง่ายๆของแอร์คือ นำเอาอากาศร้อนภายในห้องถ่ายเทออกไปข้างนอนกห้อง จะทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นขึ้น และ ยิ่งอากาศมีการเคลื่อนที่เร็วเท่าไรก็ยิ่งทำให้รู้สึกเย็นมากเท่านั้น ( คล้ายๆเรารู้สึกเย็นเมื่อมีลมพัดผ่านตัว )
หากอุณหภูมิในห้องร้อนมาก เมื่อเราเปิดแอร์ครั้งแรก การนำความร้อนในห้องถ่ายเทออกไปก็จะไปเร่งการทำงานของแอร์ ทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น เราควรเปิดพัดลมเป่าไล่อากาศร้อนในห้องออกไป พร้อมๆกับเปิดแอร์ไปด้วย
ดังนั้นหากใช้หลักการเดียวกันนี้ การเปิดแอร์ไว้ที่ 27-30 แล้วเอาพัดลมตั้งพื้น มาเป่าแบบส่ายไปมา ทำให้อากาศในห้องเคลื่อนที่เร็วขึ้น เราจะรู้สึกเย็นเท่าเดิม ในขณะที่เราตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้สูงขึ้น ( ทุกๆ 1 อุณหภูมิในรีโมทแอร์ที่เราตั้งไว้สูงขึ้น จะช่วยลดค่าไฟได้เยอะขึ้น )
ส่วนพัดลมนี้กินไฟเพียง 50 วัตต์ ( เรียกได้ว่า เปิดพัดลมประมาณ 15 ตัว ถึงกินไฟเท่าแอร์ 1 ตัว ) ดังนั้นการเปิดพัดลมพร้อมแอร์ จึงไม่ช่วยให้เปลืองไฟเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แถมยังไปช่วยลดการทำงานของแอร์อีกด้วย
จากผลเฉลี่ยแล้ว การใช้วิธีนี้จะลดค่าไฟแอร์จาก 15,000 บาท/ปี เหลือประมาณ 5,000-8,000 บาท/ปี เท่านั้น เรียกได้ว่าลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว