ปัจจุบันโลกของเรานั้นก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วกันเลยทีเดียวค่ะ ด้านเทคโนโลยีต่างๆที่มาอำนวยสะดวกในชีวิตประจำวันของเราในหลายๆด้าน และปัจจุบันก็มีโซเชียลเข้ามามีผลกับชีวิตของเราเป็นอย่างมากค่ะ ทุกๆคนนั้นต้องใช้โซเชียลกันอย่างแน่นอน แต่ก็อยู่ที่ว่าใครนั้นจะใช้มากหรือใช้น้อย ซื้อบ้านคนนั้นอาจจะไม่รู้ตัวเองเลยก็ได้ว่าเป็นคนที่ติดโซเชียลมากมายขนาดไหน แล้วรู้ไหมคะว่าบางคนนั้นที่ชอบโพสต์อะไรผ่านโซเชียลบ่อยๆ ก็ได้มีผลวิจัยที่ออกมาบอกว่า การทำงานสมองมีความผิดปกติ มีกลไกการทำงานของสมองที่แตกต่างจากคนอื่น
ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์สเตตัสต่างๆบ่นเพ้ออะไรมากมาย รูปเซลฟี่ของตนเอง แม้กระทั่งคลิปวีดีโอส่วนตัว โดยมันมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้กระตุ้นสมองในส่วนที่เชื่อมโยงกับการรับรู้เกี่ยวกับตนเองจดจำพฤติกรรมที่ชอบแชร์ เน้นย้ำความทรงจำบ่อยๆ จนสมองนั้นสั่งการให้แชร์เรื่องเกี่ยวกับตนเองลงโซเชียลกันแบบรัวๆ โดยที่ตนเองนั้นไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของตนเอง
โดยผู้วิจัยนั้นได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีอาสาสมัครทั้ง 36 คน โดยทางทีมได้โฟกัสการทำงานของสมองเกี่ยวกับการเล่นโซเชียลไว้ 2 ส่วน ได้แก่คอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า คอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า ซึ่งทำหน้าที่แสดงบุคลิกภาพส่วนตัว รับผิดชอบการตัดสินใจ และจัดการพฤติกรรมทางสังคมของตัวเรา อีกส่วนคือสมองส่วน precuneus ทำหน้าที่สะท้อนความเป็นตัวตน และตระหนักรู้เกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเอง
และก็ได้ทดลองจากผู้ใช้ Facebook โดยเจาะจง Social Media ชนิดเดียว เพราะว่าเป็นสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้กันเป็นอย่างมาก ครอบคลุมในทุกๆสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นการโพสสเตตัสรูปและคลิปวีดีโอ จากนั้นก็ได้คัดออกกลุ่มอาสาสมัครที่ชอบโพส Facebook บ่อยๆมาทำการศึกษา สแกนสมองในส่วนที่โฟกัส และก็มาวัดความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของสมองกับส่วนเน็ตเวิร์ค
ปรากฏว่าผลวิจัยนั้นก็ได้พบ กลุ่มอาสาสมัครที่ชอบโพส Facebook บ่อยๆนั้นจะมีร่องรอยการทำงานของสมอง ทั้งส่วนคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า และส่วน precuneus หนักมาก อีกทางก็ยังเรามาทิ้งรอยหยักที่สมองส่วนด้านข้างและด้านหลัง ต่างจากผลสแกนของอาสาสมัครที่ไม่ค่อยมีประวัติโพสต์ Facebook บ่อยสักเท่าไหร่นัก
จากนี้ก็ยังได้เปิดเผยข้อมูลอีกว่าคนที่ชอบโพสสเตตัสแสดงความรู้สึกและเรื่องดราม่า อาจจะเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตนเองมีความเก็บกด และก็มักที่จะใช้โลกออนไลน์นั้นแสดงความรู้สึก หรือบางคนมีแนวโน้มที่จะใช้โลกออนไลน์หลีกหนีความจริงบางอย่าง เพื่อที่จะปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเอง
เทคโนโลยีในสมัยนี้มันก็มีทั้งผลดีและผลเสียกับเราทั้งนั้นแหละค่ะ เราควรที่จะเลือกใช้มันอย่างพอดีในแต่ละวัน อยากที่จะไปยึดติดกับมันมากเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้คุณนั้นเป็นคนที่ติดโซเชียลติดโลกออนไลน์เป็นอย่างหนักค่ะ และมันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเลย