อีกหนึ่งพระอัจฉริยภาพอันโดดเด่นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั่นก็คือการถ่ายภาพ จะเห็นได้ว่าเป็นงานอดิเรกของพระองค์มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เพราะไม่ว่าจะภาพใด พระองค์ก็มักจะมีกล้องคู่ใจติดตัวอยู่เสมอ Gangbeauty เคยได้เห็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์อันสวยงามบางส่วนของพระองค์มาบ้างแล้ว แต่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพบว่ามีอีกหลายภาพเลยที่ไม่เคยเผยแพร่ให้ลูกชาวไทยได้ชื่นชม จึงได้มีพระราชดำริ ให้สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย อัญเชิญภาพถ่ายฝีพระหัตถ์มาจัดแสดง และที่จะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนิทรรศการเท่านั้น
เริ่มต้นด้วยภาพบนรถไฟพระที่นั่ง ขณะเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ พร้อมพระราชโอรสและพระราชธิดา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2504
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ครั้งทรงพระเยาว์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งทรงพระเยาว์
ต่อมาเป็นพระฉายาลักษณ์ ชุด “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9” ซึ่งพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั้นทรงถ่ายเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่น จึงทำให้เห็นทรงพระเกศาของสมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่ 9 นั้นเปลี่ยนไปตามยุคสมัยตลอด
ช่วงกลางรัชกาล เป็นช่วงที่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั้นทรงงานเพื่อราษฎรมากขึ้น จึงมีภาพถ่ายประชาชนที่มาเฝ้าฯรับเสด็จอยู่เป็นจำนวนมาก บางภาพก็สะท้อนพระอารมณ์ขัน อีกทั้งยังโปรดการถ่ายภาพแบบพาโนราม่าอีกด้วย
ลักษณะภูมิประเทศในพื้นที่ที่เสด็จเยี่ยมเยือน
จนกระทั่งช่วงปลายรัชกาล ในปี 2541 เป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงเสด็จฯไปศูนย์การแพทย์พัฒนา เขตวังทองหลาง และได้พบคุณทองแดงครั้งแรก ภาพถ่ายในช่วงปลายรัชกาลจึงเต็มไปด้วยภาพพระองค์ท่านกับคุณทองแดง จนกระทั่่งคุณทองแดงเสียชีวิตด้วยความชราในปี 2558
คุณทองแดงตอนวัยเยาว์
คุณทองแดงเล่นคอมพิวเตอร์ทรงงาน
คุณทองแดงกับแม่นม คุณมะลิ
คุณทองแดงเล่นน้ำที่พระราชวังไกลวังวล
พระองค์ทรงป้อนข้าวให้คุณทองแดงตอนคลอดลูก
และสุดท้ายของรัชกาล พระองค์ทรงพระประชวรหนัก ทำให้ต้องประทับรักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลอยู่เสมอ ภาพถ่ายในช่วงท้ายจึงเป็นภาพสิ่งแวดล้อมรอบพระวรกายจากห้องที่ประทับรักษาชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
ด้วยความที่พระองค์ทรงโปรดการถ่ายภาพมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จึงทำให้พอคาดเดาได้ว่าภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์นั้นอาจจะมีมากกว่าแสนภาพ ซึ่งทุกภาพที่เป็นของพระองค์นั้น เป็นการถ่ายทอดจากสายพระเนตรที่พระองค์ทรงเลือกแล้ว เพราะทั้งหมดนี้เป็นภาพที่ทรงถ่ายและอัดล้างด้วยพระองค์เอง นับเป็นภาพถ่ายที่มีคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์ยิ่งนัก
ชมเมื่อไหร่ก็ได้แต่คิดถึงพ่อ