วันนี้ gangbeauty นำความรู้-ความเชื่อสมัยโบราณ เกี่ยวกับข้อห้ามของหญิงตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ ว่าคนโบราณนั้นเขาสอนหรือห้ามลูกหลานอย่างไรบ้าน ซึ่งบ้างข้อก็เห็นด้วย เพราะเหตุผลที่น่าเชื่อถือ และบ้างข้อนั้นก็ไม่ได้รับการสั่งสอนมาถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นควรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ !!!
1. ห้ามไปงานศพ ด้วยเชื่อว่าจะทำให้วิญญาณเร่ร่อนตามกลับบ้านมาด้วย แต่น่าจะเป็นกุศโลบายที่ไม่ต้องการให้คุณแม่ไปงานที่มีบรรยากาศโศกเศร้าเสียใจมากกว่า เพราะจะทำให้คุณแม่เกิดอาการเครียดได้
2. ห้ามด่าหรือสาปแช่งผู้อื่น ด้วยเชื่อว่าจะทำให้ลูกตัวเองได้รับผลกรรมนั้นแทน แต่ความจริงแล้วที่ห้ามก็เพราะไม่อยากให้คุณแม่มีสุขภาพจิตที่ไม่ดีมากกว่าครับ
3. ห้ามแหงนหน้ามองพระจันทร์ ด้วยเชื่อว่าจะทำให้ลูกตาเหล่ แต่ความจริงแล้วน่าจะเป็นกุศโลบายเพื่อป้องกันไม่ให้คุณแม่เกิดอาการหน้ามืดและหกล้ม
4. ห้ามทำบาป เช่น การฆ่าสัตว์ ตกปลา ฯลฯ เพราะกลัวว่าจะทำให้จิตใจของคุณแม่ไม่สบายและส่งผลทำให้ลูกไม่แข็งแรงได้
5. ห้ามอาบน้ำตอนดึก ด้วยเชื่อว่าจะทำให้มีน้ำคร่ำเยอะ แต่ความจริงแล้วน่าจะมาจากการกลัวคุณแม่เกิดอันตรายหรือลื่นล้มในห้องน้ำ หรือจากสัตว์ร้ายที่มีพิษที่ชอบแอบอยู่ในห้องน้ำ
6. ห้ามซื้อของใช้เด็กอ่อน โดยเชื่อว่าถ้าซื้อมาตั้งไว้ที่บ้านก่อนที่เด็กจะคลอด เด็กอาจจะไม่ได้เกิด เพราะมีวิญญาณอิจฉาและจะมาพรากเด็กไปไม่ให้เด็กเกิด แต่ถ้าพูดถึงตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว การซื้อของมาไว้นานเกินไป อาจทำให้มีฝุ่นจับหรือเกิดเชื้อรา ซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพของเด็กแรกเกิดได้
7. ห้ามเจาะ ทุบ ขุด ตัด เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน เพราะเชื่อว่าวิญญาณหรือขวัญของเด็กที่มาเกิดอาจสถิตอยู่ในบ้าน แต่ความจริงแล้วคงไม่อยากให้คุณแม่ได้รับอันตรายมากกว่าครับ
8. ห้ามกินของเผ็ดร้อน เพราะเชื่อว่าอาหารเผ็ดร้อนจะไปรดหัวเด็ก ทำให้เด็กแสบร้อนตามไปด้วย แต่ความจริงแล้วอาหารรสจัดจะทำให้คุณแม่มีโอกาสเกิดอาการท้องอืดแน่นเฟ้อ
9. ห้ามกินหัวปลี เพราะเชื่อว่ายางจากหัวปลีจะทำให้คลอดลูกได้ยาก บ้างก็เชื่อว่ารกจะเปลี่ยนรูปร่างไปมีปลายแหลมเหมือนหัวปลี ตอนคลอดรกก็จะไม่ยอมออกมาและจะวกกลับขึ้นไปใหม่ แต่สมัยนี้เราคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารไม่มีทางเปลี่ยนรูปทรงของทารกได้อย่างแน่นอน
10. ห้ามกินผักเครือเถา เพราะเชื่อว่าจะทำให้คลอดลูกได้ยาก โดยจะมีวิธีแก้เคล็ดด้วยการเด็ดมือของผักพวกนี้ก่อน แต่จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวกันเลยครับ ถ้าคุณแม่ชอบก็สามารถทานได้ตามปกติ แถมยังช่วยในเรื่องการขับถ่ายป้องกันท้องผูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
11. ห้ามกินหอย คนโบราณกลัวว่าถ้ากินแล้วจะเป็นลางร้ายทำให้เด็กติดแน่นในท้อง คลอดไม่ออก คล้ายๆ กับหอยที่ติดแน่นอยู่ในเปลือก แต่ความจริงแล้ว ของสดทุกชนิดคุณแม่ก็ไม่ควรกินอยู่แล้วครับ
12. ห้ามกินเนื้อวัว คนล้านนามีความเชื่อว่าถ้าคนท้องกินเนื้อวัว เนื้อตัวของเด็กที่คลอดออกมาจะเต็มไปด้วยไขมันและล้างออกยาก แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดแค่ว่ามันเป็นอาหารที่ย่อยได้ยาก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดท้องผูกและริดสีดวงทวาร
13. ห้ามกินไข่ต่อ ไข่แตน เพราะเชื่อกันว่าถ้าคนท้องกินเข้าไปลูกจะเกิดมาซนจัด ชอบต่อย หรือมีอารมณ์ร้ายเหมือนตัวต่อ
14. ห้ามกินกล้วยและทุเรียน เพราะเชื่อว่าเด็กที่เกิดมาตัวจะสกปรก มีแป้งเกาะเต็มตัวตอนคลอด เรื่องนี้ถ้าพูดกันตามความจริงก็คงจะไม่อยากให้คุณแม่อ้วนขึ้นเท่านั้นเองครับ
15. ห้ามกินกล้วยน้ำว้า เชื่อว่าจะทำให้เด็กตัวใหญ่คลอดลำบาก เพราะในสมัยก่อนนั้นจะใช้หมอตำแยทำคลอด ถ้าเด็กตัวใหญ่มากก็ทำให้คลอดได้ยากและเป็นอันตราย ข้อนี้ถ้าพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วน่าจะเป็นเพราะกล้วยน้ำว่านั้นมีคุณค่าทางอาหารสูง จึงไม่แปลกที่เด็กจะได้รับการบำรุงจนสมบูรณ์และตัวใหญ่
16. ห้ามกิน ฯลฯ เช่น กินผลไม้แฝด เช่น กล้วย มะปรางที่มีผลติดกันเป็นพวงๆ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ได้ลูกแฝด, ห้ามกินผักแว่น เพราะเชื่อว่าจะทำให้คลอดลูกได้ยากเหมือนกับรากที่ยึดติดกับโคลนของผักแว่น, ห้ามกินเห็ดแดง เห็ดชนิดนี้เมื่อนำมาแกงจะมียางลื่นมาก ที่ห้ามกินก็เพราะเชื่อว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นโรคเรื้อน, ห้ามกินอาหารที่มีสีดำ เช่น เฉาก๊วย โอเลี้ยง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ลูกที่เกิดมามีผิวขาว, ห้ามกินไข่ด้านหรือไข่ที่แม่ไก่ฟักแล้วไม่ออกเป็นตัว เพราะเชื่อว่าเด็กที่เกิดมาจะดื้อด้านเหมือนไข่, ห้ามกินเนื้อสัตว์และไข่ (ถ้าเชื่อและทำตามนั้นลูกที่คลอดออกมาคงตัวเล็กนิดเดียว เพราะขาดโปรตีนซึ่งเป็นอาหารหลักที่ช่วยในการเจริญเติบโต), ห้ามกินไส้ปลา เพราะเชื่อว่าจะทำให้เอ็นหรือเส้นเลือดขอดเหมือนไส้ปลา ฯลฯ
ภาพปกประกอบจาก : pixabay.com