ตากระตุกเกิดจากอะไร มาดูสาเหตุและวิธีแก้อาการตากระตุก พร้อมคำทำนาย หนังตากระตุก ขวาร้ายซ้ายดีแบบโบราณว่า จริงหรือไม่
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเกิดอาการตาเขม่นหรือหนังตากระตุกกันแทบทุกคน และเมื่อตากระตุกสิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือคำโบราณที่บอกว่า ขวาร้าย ซ้ายดี ที่เชื่อกันว่า หากตาข้างขวากระตุกแปลว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี แต่ถ้าตาข้างซ้ายกระตุกหมายความว่าจะมีเรื่องดีๆ ขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้ว อาการตากระตุก นั้นเกิดได้อย่างไร แล้วขวาร้ายซ้ายดีแบบที่โบราณบอกมันจริงหรือเปล่า.. วันนี้ เราจะพาไปดูสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตากระตุก พร้อมคำทำนายในด้านโหราศาสตร์เกี่ยวกับตากระตุกมาฝากกัน
อาการตากระตุก
ตากระตุก หรือที่เรียกว่า ตาเขม่น เป็นภาวะที่มีการกระตุกของกล้ามเนื้อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียว เช่น ใต้หนังตา มุมปาก หรือเฉพาะกล้ามเนื้อรอบลูกตาข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น โดยมักจะมีอาการกระตุกมากเวลาเครียดหรือกังวลใจ รวมทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาจก่อให้เกิดอาการตาเขม่นได้บ่อยๆ แต่ถ้าได้รับการพักผ่อนที่เพียงพออาการเหล่านี้ก็จะหายได้เอง ซึ่งในสหรัฐอเมริกาพบผู้มีอาการหนังตากระตุก ประมาณ 5 คน ใน 1 แสนคน โดยพบผู้ป่วยใหม่ประมาณ 2,000 คน ทุกปี มักเป็นในช่วงอายุ 50-60 ปี พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย สำหรับสาเหตุยังไม่เป็นที่ทราบแน่นอน จากการศึกษาคาดว่าน่าจะเกิดจากการประสานงานผิดปกติของเซลล์สมองและอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
สำหรับอาการเริ่มต้นอาจมีการกระตุกเกร็งของกล้ามเนื้อไม่มาก ทำให้กะพริบตาถี่ขึ้นกว่าปกติ ต่อมาถ้าเป็นมากขึ้นจะมีกล้ามเนื้อหนังตาเกร็งจนต้องกะพริบตาแรงๆ บางคนถึงกับลืมตาไม่ขึ้นและมีกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุกเกร็งร่วมด้วย อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ภาวะที่ทำให้อาการแย่ลง คือ ความเครียด อ่อนเพลีย บางคนอาจหายเองได้ แต่บางคนจะเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ซึ่งการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้จะต้องได้รับการตรวจตาโดยละเอียดจากจักษุแพทย์ก่อนว่า การเกิดตากระตุกนี้ไม่ได้เป็นผลต่อเนื่องมาจากโรคตาอื่นๆ เพราะมีโรคตาบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้ เช่น เปลือกตาอักเสบ ตาแห้ง ขนตาผิดปกติ การติดเชื้อของตา กระจกตาอักเสบ ต้อหิน ต้อกระจก โรคจอประสาทตา ซึ่งถ้ารักษาโรคเหล่านี้อาการตากระตุกก็จะหายไป
โดยแพทย์หญิงไรนา จินดาศักดิ์ ระบุว่า สาเหตุที่หนังตากระตุกมาจากการหดเกร็งค้างของกล้ามเนื้อตา หรือบริเวณใบหน้า ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นผิดปกติของเส้นประสาทบริเวณใบหน้า ในกรณีที่หนังตากระตุกบ่อยๆ เกิดจาก 2 กลุ่มโรค โดยกลุ่มแรกเรียกว่า Essential Blepharospasm มีอาการกระตุกเฉพาะหนังตาอย่างเดียว กลุ่มที่สองคือ Hemifacial Spasm อาการของคนกลุ่มนี้จะกระตุกที่หนังตาและกระตุกที่ใบหน้าซีกนั้นด้วย ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องระวัง เพราะมาจากรอยโรคที่ไปกระตุ้น หรือกดทับเส้นประสาทคู่ที่ 7 ในสมอง ไม่รุนแรงถึงกับเป็นอัมพฤกษ์ แต่ต้องพบแพทย์เพื่อหารอยโรคนั้นก่อนที่จะช้าเกินไป
ปัจจัยที่ทำให้เกิดตากระตุก
การทำงานหนัก
การอดนอน
การมีสิ่งระคายเคืองที่ตา เช่น คอนแทคเลนส์, ภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา, สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
แนวทางการรักษาอาการตากระตุก
สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดหนังตากระตุก คือ กาแฟ น้ำอัดลม การอดนอน ความเครียด บุหรี่ เป็นต้น วิธีรักษาเบื้องต้นทำได้โดยหยุด หรือลดสิ่งกระตุ้นเหล่านั้น หรือไปพบแพทย์ เพื่อรักษาโดยใช้ยากิน ซึ่งมีให้เลือกใช้หลายกลุ่ม แล้วแต่แพทย์จะเลือกใช้ ถ้าใช้ยากินไม่ได้ผลก็จะพิจารณาใช้ยาฉีด ที่นิยมในปัจจุบันคือ การฉีดโบท็อกซ์บริเวณที่มีอาการ เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ แต่หากใช้ยาฉีดแล้วไม่ได้ผล ถึงจะใช้วิธีผ่าตัดเอากล้ามเนื้อหนังตาออก
คำทำนายตากระตุก (ตาเขม่น)
ตากระตุกในตอนเช้า (นับจากตื่นนอน ใกล้รุ่ง)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : จะมีญาติมิตรต่างแดนมาหา
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะมีปากเสียงทะเลาะวิวาท หรือมีเรื่องเดือดร้อนมาสู่
ตากระตุกในตอนสาย (09.00-12.00 น.)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : ญาติมิตรต่างแดนหรือต่างจังหวัดจะนำลาภมาให้
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะเกิดเรื่องไม่ดีงามภายในครอบครัว
ตากระตุกในตอนบ่าย (13.00-16.00 น.)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : การที่คิดไว้หรือกำลังทำอยู่จะประสบผลสำเร็จ
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะมีเพศตรงข้ามกล่าวขวัญถึงหรืออาจมาหา
ตากระตุกในตอนเย็น (17.00-19.00 น.)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะมีญาติหรือเพื่อนสนิทที่อยู่ห่างไกลมาเยี่ยม
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : จะได้พบญาติหรือมิตรสหายที่จากกันไปนานโดยไม่นึกไม่ฝัน
เขม่นในตอนกลางคืน (19.00 น. เป็นต้นไป)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะมีข่าวดีมาถึงในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หรือจะได้ลาภจากผลงานที่ทำไว้
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : จะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว