หิวแค่ไหนก็อย่ากิน!! 12 อาหารห้ามกินตอนท้องว่าง
อาหารบางประเภทไม่เหมาะที่จะรับประทานตอนท้องว่าง เพราะมันอาจจะส่งผลเสียกับร่างกายเราได้ ถึงแม้จะหิวแค่ไหนเราก็ต้องเลือกรับประทานคะ ไม่ใช่แค่กินให้ท้องอิ่มอย่างเดียว แต่เราต้องคำนึงถึงสุขภาพด้วยค่ะ วันนี้ Gang Beauty จะมาบอก 7 อาหารที่ไม่ควรกินตอนท้องว่าง จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยจ้า
1. สับปะรด
เนื่องจากสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์มาก หากเรายังไม่ได้รับประทานอาหาร เอนไซม์เหล่านี้จะเข้าไปกัดกระเพาะอาหาร ดีที่สุดคือรับประทานสับปะรดหลังรับอาหาร จะได้ผลดีต่อร่างกาย
2. วิตามิน
การรับประทานวิตามินในขณะท้องว่าง ร่างกายจะดูดซับวิตามินไม่ทันและจะถูกถ่ายออกไปพร้อมกับอุจจาระควรรับประทานหลังอาหาร ร่างกายจะได้ดูดซึมวิตามินอย่างเต็มที่
3. น้ำชา
ตื่นเช้าแล้วจิบน้ำชาสักแก้วดูแล้วเข้าท่าและน่าจะดี แต่หารู้ไม่ว่า การจิบชาร้อนโดยเฉพาะชาแก่ช่วงท้องว่างนั้นจะทำให้กรดเกลือของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางเกิดอาการใจสั่นเวียนศีรษะมือเท้าไม่มีแรงและหิวมากๆ
4.กระเทียม
สารที่อยู่ในกระเทียมจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้ บางทีอาจจะเกิดอาการรุนแรงจนทำให้เกิดการปวดท้อง(gastrospasm) หรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(gastritis) ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
5.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไม่ควรรับประทานในขณะท้องว่าง เพราะมันจะมีส่วนเพิ่มแรงกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(gastritis) และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้(stomach ulcer) และร่างกายก็จะเกิดอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเหงื่อออกและใจสั่น บางทีอาการอาจรุนแรงจนถึงเป็นลมหรือเสียชีวิตก็ได้
6.เครื่องดื่มเย็น
การรับประทานเครื่องดื่มเย็นในเวลาท้องว่างจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้และทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ จนส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะอาหารได้
7.มันเทศ
มันเทศจะอุดมไปด้วยน้ำตาล การรับประทานในเวลาท้องว่างนั้น จะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเกลือออกมามาก และมันเทศก็ยังมีเอนไซม์ออกซิไดซ์ (Oxidase) มากมาย จะเป็นตัวทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากมายในระบบทางเดินอาหาร ถ้ารับประทานมันเทศมากเกินไปจะมีอาหารท้องอืดและสะอึกเกิดขึ้นได้
8.น้ำตาลหรืออาหารรสหวาน
การที่คนเราเสียพลังงานไปเยอะๆนั้นจริงอยู่ว่าร่างกายต้องได้รับการเสริมสร้างจากเกลือแร่และน้ำตาลเมื่อเรารู้สึกอ่อนเพลีย แต่ทว่าหากท้องว่างแล้วการเลือกดื่มน้ำหวานหรือของหวานเช่นน้ำอัดลมลูกอมช็อกโกแลต จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไตได้
9. ส้ม
ส้มอุดมไปด้วยน้ำตาลและกรด ซึ่งส้มจัดว่าเป็นผลไม้ต้องห้ามตอนท้องท้องว่าง เพราะรสเปรี้ยวของส้มจะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้ ทำให้กรดเกลือในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นและเกิดออาการท้องอืดท้องเฟ้อ
10. กล้วย
คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อกันว่าการทานกล้วยเยอะๆจะทำให้ระบบขับถ่ายดี แต่มักจะลืมกันไปว่า หากทานกล้วยในช่วงเวลาที่ท้องว่างแล้วนอกจากจะทำให้ท้องอืด ยังจะเพิ่มธาตุแมกนีเซียมในเลือดให้สูงขึ้นทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือดหัวใจอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก
11. มะเขือเทศ
ไม่ควรรับประทานมะเขือเทศขณะท้องว่าง เนื่องจากในมะเขือเทศมีสาร Astringent ที่จะทำปฏิกิริยากับกรดเกลือในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้กรดเกลือจับตัวเป็นก้อนซึ่งอาจทำให้กระเพาะอาหารอุดตัน เกิดอาการไม่สบายต่างๆ เช่น ท้องอืดท้องเฟ้อปวดท้องได้ แต่ถ้าเรารับประทานมะเขือเทศในช่วงเวลาหลังจากการรับประทานอาหาร กรดเกลือในกระเพาะอาหารจะเข้ากันกับอาหารอย่างดี จะทำให้กรดเกลือในกระเพาะอาหารเจือจางได้
12.ลูกพลับ
ลูกพลับเป็นผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงหากร่างกายยังไม่มีอาหารรองท้องมาก่อน เพราะการรับประทานผลไม้ชนิดนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเกลือออกมามากทำให้ผู้บริโภครู้สึกเจ็บหน้าอกคลื่นไส้และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้ง่าย ดังนั้นใครที่อยากจะรับประทานผลไม้ชนิดนี้จริงๆก็ควรรับประทานในช่วงเวลาหลังจากการรับประทานอาหารและไม่ควรรับประทานเกินสองลูกต่อวัน