ใครๆก็อยากเป็นคนฉลาด คิดอ่านทันคน ไม่มีใครที่ไม่อยากเป็นคนเก่งหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นกระบวนการคิดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถช่วยพัฒนาสมองของเราได้ ช่วยกระตุ้นสมองให้มีความจำที่ดีได้ แต่วันนี้ gangbeauty ไม่ได้มาพูดถึงสิ่งที่ช่วยพัฒนาสมอง แต่ได้นำ 6 พฤติกรรมความคิดที่ทำร้ายสมองมาให้อ่านกันค่ะ เพราะถ้าคุณอยากเป็นคนเก่ง คนฉลาดควรหยุดคิดเรื่องแย่ๆที่รบกวนสมองกันดีกว่าค่ะ !!!
1. โกหก
การทำงานหนักของสมองมีอยู่ 2 อย่างคือ 1. ทำงานหนักในด้านดี ด้านสร้างสรรค์ และ 2. ทำงานหนักในด้านไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ เฉพาะการใช้สมองทำงานหนักในด้านสร้างสรรค์เท่านั้น จึงจะทำให้สมองมีประสิทธิภาพดียิ่งๆขึ้นไป แต่คนโกหกเป็นประจำ สมองต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ ในการที่จะต้องพยายามจำสิ่งที่ได้โกหกเอาไว้ และก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของการใช้สมองทำงานหนักอย่างไม่สร้างสรรค์
2. เครียด
ความเครียด ความฟุ้งซ่าน ทำให้สมองต้องทำงานหนักอย่างผิดทาง ทำให้สมองหลั่งสารหรือขาดสารบางอย่างที่หล่อเลี้ยงและกระตุ้นให้สมองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดอาการซึมเศร้าหรือฟุ้งซ่านอย่างหนัก ถึงขั้นขาดสติยั้งคิดทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
3. คิดแย่
การใช้สมองคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างแน่ชัด การคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง คือ ผิดทำนองคลองธรรม ผิดกระบวนการ ผิดจริยธรรม ผิดจรรยาบรรณ ผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น การคิดหาทางร่ำรวยทางลัด การเจริญก้าวหน้าในด้านอาชีพโดยวิธีการทางลัด โดยทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นการคดโกง การประจบผู้บังคับบัญชา การแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน ความคิดเหล่านี้เป็นวิธีที่ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
4. หมกมุ่น
การคิดหมกมุ่นอยู่กับอบายมุข เช่น การพนัน คลั่งหวย ทำให้สมองต้องทำงานหนักทั้งเวลาตื่นและหลับ เพราะเวลาตื่นก็จะหมกมุ่นหาแต่อาจารย์เด็ด เลขเด็ด ตีความหมายของการฝันให้เป็นตัวเลข เวลาหลับก็จะฝันแต่เรื่องเป็นตัวเลข พบเห็นสิ่งผิดปกติในธรรมชาติก็จะคิดเป็นตัวเลข การหมกมุ่นกับอบายมุขทำลายทั้งประสิทธิภาพการทำงานของสมองและคุณภาพชีวิต
5. เจ้าคิดเจ้าแค้น
คนเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นประจำจะมีสภาพเป็นคนหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ไม่เป็นมงคล สมองจะถูกทำลายเสมือนหนึ่งถูกอาบด้วยยาพิษเป็นประจำ ก็จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลในการทำลายสมอง
6. ไม่ยอมคิด
ตรงกันข้ามกับคนที่คิดมากอย่างผิดทาง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก ก็คือคนที่ไม่ยอมคิดอะไรเป็นพิเศษขึ้นมาเลย นอกเหนือไปจากการคิดเพื่อชีวิตอยู่ไปวันๆ เช่น การกินอาหาร การทำงานตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดเท่านั้น อาจดูคล้ายผู้บรรลุในสัจจะแห่งชีวิตและธรรมแบบเต๋า แต่ความว่างเปล่าของสมองแตกต่างอย่างมากกับผู้บรรลุแบบเต๋า