แต่ละคนก็เกิดมาแตกต่างกัน ดังนั้นการอยากมี อยากได้เพื่อให้ตัวเองเป็นคนที่เพียบพร้อมเทียบเท่าคนอื่น จึงเป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวทุกคน และสิ่งนี้เองจึงเป็นจุดที่บรรดาผู้ผลิตต่างๆ มีช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น การผลิตเครื่องดื่ม “เพื่อสุขภาพ” ที่อวดอ้างสรรพคุณโหดๆ มามอมเมาให้คล้อยตามจนยอมเสียเงินซื้อเพราะเชื่อว่าจะได้ผลลัพธ์อย่างใจหวัง ซึ่ง Gangbeauty ก็เชื่อเช่นเดียวกันว่าคนที่สั่งซื้อนั้นส่วนใหญ่ก็ขาดสติคิดให้ถี่ถ้วน ลืมนึกกันไปหรือเปล่าว่าความจริงแล้วสิ่งนั้นให้คุณประโยชน์หรือโทษกับผู้บริโภคกันแน่!
1. เครื่องดื่มบำรุงร่างกาย
commons.wikimedia.org
ผลิตภัณฑ์นี้มักแสวงหาผลประโยชน์โดยตรงกับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ คนชราคุณตาคุณยายทั้งหลาย และคนที่มีโรคเรื้อรังติดร่างกาย เพราะพวกเขาเหล่านี้มีความหวังที่จะได้ยาดีมาทานบรรเทาความเจ็บป่วยอยู่แล้วนั่นเอง บ้างก็อวดอ้างว่ามีสรรพคุณสมุนไพร บ้างก็อวดอ้างว่าประกอบไปด้วยอาหารหลักครบถ้วน 5 หมู่ ทั้งที่ความจริงแล้วส่วนประกอบต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ไม่ได้เป็นอย่างที่แจ้งเลย ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของเมื่อหลายปีก่อน เกี่ยวกับเครื่องดื่มผสม “รังนก” ที่เปรยเอาไว้อย่างดิบดีว่ารังนกแท้ 100% แต่เมื่อโดนตรวจสอบจากหน่วยงานอย่างละเอียดแล้วกลับพบว่ามีรังนกผสมอยู่เพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง เห็นมั้ยว่าไว้ใจไม่ได้เลย
2. เครื่องดื่มบำรุงสมอง
pixnio.com
ดื่มแล้วฉลาด ดื่มแล้วความจำเป็นเลิศ สมองโปร่งใส ก็ใช้สโลแกนแบบนี้ แล้วนักเรียนนักศึกษาที่กำลังอยู่ในช่วงอยากอัพเกรดการเรียนรู้ของตัวเองให้เป็นเลิศเหนือใคร ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ โดยสิ่งที่ช่วยสร้างมายาคตินี้ให้ดูน่าเชื่อถือ คือการกล่าวอ้างว่ามีเปปไทด์ กรดอะมิโน และวิตามินต่างๆ ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างเข้มข้น แต่ไม่ได้อธิบายเลยว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้สมองฉลาดทันทีแบบที่ผู้บริโภคคาดหวัง เพราะความฉลาดของสมองนั้นเกิดจากการฝึกฝน ไม่ใช่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่ม ที่สำคัญคืออาหารที่เราทานกันเข้าไปโดยปกตินั้น จะถูกย่อยสลายกลายเป็นโมเลกุลสั้น และถูกดูดซึมไปหล่อเลี้ยงร่างกายทุกส่วนครบถ้วนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องหวังที่จะฉลาดทางลัดจากเครื่องดื่มประเภทนี้เลยก็ยังได้
3. เครื่องดื่มเสริมความงาม
www.pexels.com
จุดขายเด่นๆ ของเครื่องดื่มประเภทนี้คือคำโฆษณาและพรีเซนเตอร์ ที่ว่าดื่มแล้วจะขาว เนียน ใสเหมือนพรีเซนเตอร์ ด้วยสารมหัศจรรย์ที่ทุกวันนี้มีขายกันให้ควั่กตามท้องตลาดอย่าง “คอลลาเจน” ซึ่งเนื้อแท้ของคอลลาเจนนั้นมันก็คือโปรตีนที่ร่างกายของเราผลิตเองอยู่แล้วปกตินั่นล่ะ เมื่อวันเวลาผ่านไป สูงวัยขึ้น เซลล์คอลลาเจนเหล่านี้ก็จะเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา ส่งผลให้ผิวหนังคนเราเหี่ยวย่นไปเรื่อยๆ และสิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยเยียวยาผิวเหี่ยวแห้งให้กลับมาดูดีได้ก็มีเพียงน้ำเปล่า อาหารดีๆ ที่ครบ 5 หมู่ และการออกกำลังกายเท่านั้น คอลลาเจนเสริมที่ทุกคนดื่มเข้าไป ส่วนใหญ่ลงกระเพาะและโดนขับถ่ายออกหมด มีเพียงนิดเดียวเท่านั้นล่ะที่ถูกดูดซึมเข้าผิวหนังไปจริงๆ ดังนั้นการดื่มคอลลาเจนเป็นแกลลอน ก็ไม่ช่วยให้สวยได้เหมือนคำโฆษณาหรอก
www.flickr.com
สรุปแล้วคือ ถึงเครื่องดื่มเหล่านี้จะผสมสารประกอบตามคำโฆษณาจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าปริมาณที่ผสมลงไปจะมากพอต่อความต้องการของร่างกาย และแม้จะมีเครื่องหมายอย. แปะอยู่บนฉลาก อนุญาตให้รับประทานได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าอย. จะเป็นเครื่องหมายการันตีผลลัพธ์ตามคำโฆษณาด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะยอมควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ อยากให้ผู้บริโภคอย่างเราลองคำนวณดูก่อนสักนิดดีมั้ย ว่าเงินที่จ่ายออกไปเพื่อซื้อความสะดวกสบายกับเครื่องดื่มพวกนี้ เทียบกับคุณค่าทางโภชนาการอาหารแล้วคุ้มจริงหรือ เพราะโดยธรรมชาตินั้น สารอาหารที่เราต้องการก็มาจากมื้ออาหารของเราปกติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสริมเติมแต่งอะไรหรอก
ถ้าดื่มแล้วสบายใจก็ตามใจ จะคุ้มไม่คุ้ม สุดท้ายก็ต้องเป็นการตัดสินใจของเธอเองอยู่ดี!