โรคโมโนนิวคลิโอซิส เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการ “จูบ” กลุ่มเสี่ยงคือวัยรุ่น อาการของโรคเป็นได้ตั้งแต่มีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย ไปจนถึงมีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ เบื่ออาหาร สามารถหายได้เอง 2-3 สัปดาห์ แต่ควรระมัดระวังไม่จูบกับผู้ที่ติดเชื้อ ไม่ใช้ช้อนส้อม แก้วน้ำ และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ร่วมกับผู้อื่น
สาเหตุของโรคโมโนนิวคลิโอซิส
โรคโมโนนิวคลิโอซิส เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr Virus: EBV) ที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย การไอ หรือการจาม
อาการของโรคโมโนนิวคลิโอซิส
1. มีไข้
2. ปวดศีรษะ
3. อ่อนเพลีย
4. ไอ หรือจาม
5. เจ็บคอ
6. อาจพบผื่นตามร่างกาย เช่น หน้า คอ หน้าอก หลัง
7. เบื่ออาหาร
8. เหงื่อออกตอนกลางคืน
วิธีรักษาโรคโมโนนิวคลิโอซิส
โมโนนิวคลิโอซิส สามารถมีอาการที่ดีขึ้น และหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่หากในรายที่มีอาการหนัก เช่น มีผื่นขึ้นเต็มตัว อ่อนเพลียมากๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และเลือกให้ยามารับประทานอย่างเหมาะสม (ยาที่ซื้อกินเองอาจไม่ช่วยรักษาได้ตรงจุด จึงอาจไม่ได้ผล หรือไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้น)
วิธีป้องกันโรคโมโนนิวคลิโอซิส
1. ไม่จูบกับคนที่ติดเชื้อโรคโมโนนิวคลิโอซิส
2. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ช้อน ส้อม ตะเกียบ แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ผ้าขนหนู ฯลฯ
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับละอองน้ำลาย หรือเสมหะของผู้อื่น
4. รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. หากมีอาการผิดปกติ มีไข้ ไม่สบาย และอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรพบแพทย์