วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำงานหลายๆ คนรอคอย และเมื่อวันเหล่านั้นผ่านไป ทุกคนก็ต้องกลับสู่วิถีเดิม แต่พอถึงเวลานาฬิกาปลุกกลับไม่อยากลุกออกจากเตียงตื่นไปทำงานเอาซะดื้อๆ แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดี จะหยุดต่อเลยก็คงจะไม่ได้ แต่เอ๊ะ… คนอื่นเขาจะเป็นเหมือนเราไหมนะ?
อาการไม่อยากให้วันหยุดหมดไปเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนคิดอยู่เสมอ จะมีประโยคคำถามเกิดขึ้นในหัวทันที ว่า ทำไมช่วงเวลาแห่งความสุขถึงหมดเร็วจัง นั่นเป็นเพราะการเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา หรือเจอกับหัวหน้าจอมโหด ขี้บ่น สั่งงานเยอะ เหตุผลต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ คือ การกลับไปทำงานตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
การปลุกไฟในตัวเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างพลังบวกให้มีกำลังใจกลับมาทำงานอีกครั้ง มิฉะนั้นจะเกิดความเครียด เพราะแค่คิดว่า วันหยุดกำลังจะหมดไปพรุ่งนี้ต้องมาทำงานเท่านี้ก็เครียดแล้ว ดังนั้นลองเปลี่ยนมุมมองการทำงานให้เป็นอีกหนึ่งความสุข มองหาความสุขเล็กๆ จากการทำงาน ขจัดความเครียด คลายอารมณ์ของตนเองให้พร้อมกับการทำงานในวันพรุ่งนี้ และที่สำคัญเวลาจัดทริปไปเที่ยวหรือกลับบ้านต้องวางแผนเวลาให้ตัวเองอย่างชัดเจน เช่น หยุดยาว 5 วัน เที่ยว 3 วัน อีก 2 วันสุดท้ายเอาไว้เดินทางกลับบ้านและพักผ่อนเตรียมตัวให้พร้อมทั้ง กาย ใจ ในการทำงานในวันถัดไป
การปล่อยเวลาให้หมดไปกับการเที่ยวอย่างเดียวคงทำไม่ได้ เพราะการทำงานก็มีส่วนสำคัญในชีวิตเช่นกัน คิดง่ายๆ ไม่ทำงาน จะเอาเงินมาจากที่ไหน ดังนั้นเมื่อเรามีหน้าที่ต้องทำงาน ก็ต้องทำให้เต็มที่ ถึงแม้จะท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง ไม่เป็นไร พักกายพักใจ ก็เริ่มใหม่ได้ แต่หน้าที่ก็ทิ้งไม่ได้เช่นกัน คือ การกลับมาทำงาน ที่สำคัญการมองเห็นความสุขของการทำงานจะเป็นแรงกระตุ้นให้เราพร้อมทำงานมากขึ้น
หลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ทาง สสส. อยากให้ทุกคนเริ่มต้นทำงานอย่างมีความสุข ด้วยหลักการพัฒนาตนเองให้มีความสุขกับการทำงานในยุค 4.0 ดังนี้
1. การเป็นคนที่มีสุขภาพดี พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ เตรียมร่างกายให้พร้อมกับการทำงาน
2. รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลือกัน
3. จัดการกับอารมณ์กับตนเองให้ได้ หากรู้สึกท้อใจไม่อยากมาทำงานให้ดูแลสุขภาพใจตนเอง เช่น ฟังเพลง หรือหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อลดความเครียด แล้วมาลุยงานต่อ
4. เรียนรู้และรักในอาชีพของตนเอง เรียนรู้พัฒนาตนเองเพื่อให้มีความสุขกับการทำงาน เคารพในการตัดสินใจเพื่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
5. เป็นคนมีคุณธรรม ดุแลตนเองมาทำงานให้ตรงต่อเวลา มีความอดทนต่อแรงกระทบในการทำงาน เรียนรู้การทำงานเป็นทีม
6. ใช้เงินให้เป็น ข้อนี้เป็นสิ่งที่หลายคนพบปัญหาทำงานแล้วรายรับไม่พอกับรายจ่าย ดังนั้นต้องจัดการรายรับรายจ่ายให้สมดุล ไม่ใช้เงินเกินตัว เช่นหยุดยาว ต้องรู้จักใช้จัดสรรให้พอประมาณจะได้ไม่ทุกข์ในภายหลัง
7. รักครอบครัวและดูแลครอบครัวได้ เมื่อหมดกำลังใจที่จะมาทำงานให้มองครอบครัวเป็นกำลังใจสำคัญเป็นแรงผลักดันให้มีแรงทำงานมากขึ้น
8. รักและดูแลองค์กร หลายคนบอกว่า ทำงานเพราะเงิน ทำไปวันๆ อยากให้ลองเปลี่ยนมุมมอง ให้มองถึงการทำงานอย่างเต็มที่ ร่วมกันพัฒนาการทำงาน มองเห็นสังคมการทำงานในแง่บวก โดยเริ่มเปิดใจที่จะรักองค์กรก่อนแล้วจะรู้ว่าตนอยากทำสิ่งดีๆ ให้องค์กรมากขึ้น
วันหยุดยังมีอีกหลายครั้ง แต่สิ่งสำคัญจงเรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลให้ชีวิต เพื่อให้เกิดทั้งความสุขของตนเอง ความสุขของครอบครัว และความสุขในองค์กร/สังคมการทำงาน ไม่มีอะไรที่มากเกินหรือน้อยเกินไป ความสุขผ่านมาก็ผ่านไป ความทุกข์ก็เช่นกันเมื่อผ่านมาก็จะผ่านไป ปรับมุมมองอีกนิด ท้อได้ เหนื่อยได้ สนุกได้ ทุกข์ได้ แต่ก็ต้องกลับมาถามตนเองว่า เมื่อวันหยุดยาวนั้นหมดลง การทำงานก็จะเริ่มขึ้น จงปลุกพลังในตัวคุณให้พร้อมกับทุกที่ทุกสถานการณ์ มองเห็นความสุขของการทำงาน แค่เพิ่มพลังบวกให้ตัวเองมากขึ้นเท่านั้นเอง