งานทำความสะอาดเป็นงานที่เหมือนจะง่าย แต่มันไม่ง่ายเลยสักนิด เพราะต้องอาศัยทั้งแรงกายอันหนักหน่วง และแรงใจอีกเต็มเปี่ยม ยิ่งบ้านไหนหลังใหญ่หน่อย แม่บ้านอย่างเราก็จะยิ่งเหนื่อยหนักขึ้นไป ทำเสร็จครั้งนึงก็ดันดีใจได้แค่ไม่ถึงครึ่งวัน เพราะความสกปรกเริ่มกลับมากองอีกครั้งอย่างรวดเร็ว Gangbeauty ขอแนะนำเคล็ดลับการกำจัดความสกปรก ยืดอายุความสะอาดให้อยู่นานขึ้นนี่เลย ทำตามซะ จะได้ไม่ต้องทำบ่อย!
1. โรงรถให้ปูกระเบื้อง
งานนี้เป็นงานใหญ่ อาจจะต้องมีการยื่นเหตุผลขอเบิกงบประมาณในการสร้างเล็กน้อย แต่บอกเลยว่าการลงทุนนี้ไม่เสียเปล่าแน่นอน เพราะกระเบื้องจะช่วยลดปัญหาฝุ่นติดซีเมนต์แล้วปลิวเข้าบ้านได้ดี พยายามเลือกพื้นกระเบื้องที่โดนน้ำไม่ลื่นด้วยนะ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อคนในบ้านจ้ะ
2. วางพรมเช็ดเท้าทั้งในและนอกประตู
เท้าคนเรา เหยียบอะไรนิดหน่อยก็สกปรกแล้ว ขนาดว่าใส่รองเท้าเดินออกนอกบ้านแป๊บเดียว ก็เป็นไปได้ว่าละอองต่างๆ จะเกาะติดฝ่าเท้าเข้ามาโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อย่ำลงที่พื้นบ้านก็เลยเหมือนการประทับรอยฝุ่นนั้นลงบนพื้นเต็มๆ ดังนั้นหาพรมเช็ดเท้ามาปูไว้ทั้งในและนอกประตู เพื่อเป็นด่านแรกในการดักจับฝุ่นละอองและรอยเปื้อนต่างๆ ซะวันนี้เลย
3. ปูพรมชิ้นเล็กทับพรมชิ้นใหญ่
บ้านไหนที่สร้างบรรยากาศให้สมบูรณ์ด้วยพรมปูพื้นห้อง บอกเลยว่าตอนทำความสะอาดมีร้องแน่นอนเพราะมันทั้งใหญ่ ทั้งหนัก แถมยังสกปรกง่าย ตัวดักกรองฝุ่นละอองและรอยเปื้อนทุกอย่าง แต่เราเปลี่ยนเป็นนานๆ ทีซักทีก็ได้ เพียงแค่เอาพรมผืนเล็กมาปูทับไว้บนพรมผืนใหญ่ เวลาทำความสะอาดก็จะง่ายขึ้น เพราะผืนเล็กซักง่ายกว่านั่นเอง
4. วางอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ให้ทั่ว
ไม่ว่าจะห้องไหน ไม่ว่าจะมุมใด หากเป็นมุมที่ต้องใช้เป็นประจำ ทำความสะอาดเป็นประจำจนเหนื่อยใจ แนะนำให้ซื้อเซตอุปกรณ์ทำความสะอาดของแต่ละจุดเอาไว้เลย เพื่อให้หยิบสะดวก เช่นวางสเปรย์ทำความสะอาดไว้คู่กันกับผ้าเช็ดไฟเบอร์ในห้องน้ำ ก็จะทำให้เราหยิบออกมาเช็ดกระจกบ่อยขึ้น วันทำความสะอาดใหญ่ก็จะมาช้าลง งานก็จะไม่หนักมากนั่นเอง
5. จะขึ้นชั้นสองต้องมีของติดมือ
ถ้าที่บ้านมีลูก หรือคุณพ่อบ้านชอบทำข้าวของรกบ่อย ให้ท่องไว้ว่าเมื่อไหร่จะขึ้นห้องนอน อะไรที่ชั้นล่าง ที่เคยอยู่ในห้องนอนจะต้องหยิบติดมือขึ้นไปด้วยทุกครั้ง เป็นการเก็บของไปด้วยในตัวนั่นเอง
6. ขนหมาให้แปรงนอกบ้าน
สุนัขคู่บ้านอาจเป็นเพื่อนที่ดี แต่ขนของมันมักไม่ค่อยเป็นมิตรกับคุณแม่บ้านเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ แปรงขนน้องหมาที่นอกบ้านเถอะ เพราะขนเล็กขนฝอยที่เรามองไม่เห็น มันจะได้ไม่หลุดร่วงอยู่ในบ้าน แล้วมุดในซอกเล็กซอกน้อยจนกลายเป็นฝุ่นคละคลุ้งในภายหลัง
7. ซื้อเครื่องดูดฝุ่นเล็ก
การทำความสะอาดบ้าน บางทีมันก็น่าเหนื่อยตรงอุปกรณ์ไม่ค่อยเป็นใจนี่ล่ะ ยกตัวอย่างเช่นเครื่องดูดฝุ่นเลย ลองซื้อเครื่องดูดฝุ่นอันเล็กๆ มาเพิ่มอีก 1 อันดูสิ จับถนัดมือ คล่องกว่า ไม่ต้องก้มเงยให้ปวดหลัง แถมหยิบออกมาใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการได้โดยไม่ต้องออกแรงรื้อข้าวของอะไรเลย
8. ตั้งกฎวันละ 10 นาที
แม้งานบ้านจะเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ลองบังคับตัวเองให้ได้วันละ 10 นาทีที่จะลงมือทำความสะอาดสักส่วน จะทำให้ความสกปรกไม่กองเรื้อรัง อีกทั้งยังไม่ทำให้เราเหนื่อยใจเวลาต้องเห็นมันซ้ำไปซ้ำมาอีกด้วย
9. หน้าต่างอย่าเปิดทิ้ง
ฝุ่นเจ้ากรรมมักลอยเข้ามาตามลมเย็นๆ จริงอยู่ว่าการเปิดหน้าต่าง เป็นการถ่ายเทอากาศได้ดี แต่ฝุ่นจะคลุ้งง่ายมาก วันเดียวก็เกาะใหม่แล้ว หากบานไหนยังไม่ใช้ก็ปิดไว้ซะ เปิดเท่าที่จำเป็นก็พอจ้ะ
10. ซื้อสลิปเปอร์
รองเท้าเดินในบ้านอาจจะดูเป็นสิ่งไร้ความจำเป็นสำหรับหลายๆ ครอบครัว แต่บอกให้ว่าเท้าของเรานี่ล่ะตัวแพร่กระจายความสกปรกเลย ทั้งเหงื่อไคล ทั้งฝุ่นจากห้องนั้นมาสู่ห้องนี้ ทางที่ดี ซื้อสลิปเปอร์มาไว้ประจำตัวคนละคู่ บ้านก็จะสะอาดนานขึ้นแล้วล่ะ
หรือใครมีเคล็ดลับอื่นอีก แชร์ได้นะ!