“พูดไม่คิด”เรื่องเล็กๆที่ไม่เล็ก
เชื่อว่าหลายคน เคยเจอปัญหาเรื่องการพูดไม่คิด
ไม่ว่าจะเป็นผู้พูดเองหรือผู้ฟัง เราล้วนเป็นทั้งสองฝ่ายเเล้วทั้งสิ้น
แน่นอน เมื่อเราอยู่ในฐานะคนที่เป็นผู้พูด เราอาจจะไม่รู้ตัวว่าเราพูดอะไรออกไปบ้าง
หรือไม่รู้ว่าคำพูดนั้นได้ทำร้ายจิตใจ ความรู้สึกของผู้ฟังหรือเปล่า รู้ตัวอีกที ผู้ฟังคนนั้นก็อาจจะโกรธเราไปเลยก็ได้
กลับกัน หากเราอยู่ในฐานะของผู้ฟัง เราก็จะรู้สึกได้ทันทีว่่าประโยคนี้ที่เขาพูดมาเนี่ย มันทำร้ายจิตใจกันเกินไปหรือเปล่า ?
บางคนอาจจะพูดตรงๆว่าอย่าพูดแบบนี้ได้มั้ย เสียความรู้สึก เป็นการบอกให้ผู้พูดฉุกคิดว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่
เเต่กับบางคน อาจจะรับฟังเเละเก็บคำพูดนั้นเอาไว้เงียบๆภายใต้รอยยิ้ม แต่หารู้ไม่ว่าภายในใจนั้นก็เสียความรู้สึกมากอยู่ไม่น้อย
เราขอยกตัวอย่างเรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยตรงกับเราเอง เเละเป็นการพูดไม่คิดที่เราเสียใจมากที่สุด
นั่นคือเราทะเลาะกับพ่อเพราะการพูดแบบใช้อารมณ์เเละไม่ไตร่ตรองของเราเอง
เป็นธรรมดาที่ครอบครัวอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง เพราะยิ่งใกล้ชิดเเละผูกพันกันมากเท่าไหร่ ความเกรงใจ การเเสดงท่าทาง การปฏิบัติเเละการพูดจาแบบรักษาน้ำใจ จึงน้อยลงมากเท่านั้น อาจจะคิดว่าครอบครัวเดียวกัน ไม่เป็นไร เขาไม่โกรธหรอก
แต่เราลืมอะไรบางอย่างไปหรือเปล่า? ว่าคนในครอบครัวก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีจิตใจ มีความรู้สึก
ใช่ว่าเราจะพูดอะไรโดยไม่คำนึงถึงผู้ฟังที่อาจจะเป็น พ่อ เเม่ น้อง พี่ ป้า น้า อา ของเรา เขาก็เสียความรู้สึกเป็นเหมือนกัน
โดยเฉพาะเรากับพ่อ ซึ่งมีนิสัยต่างกันค่อนข้างมาก เราเป็นคนไม่ชอบให้ใครมาเซ้าซี้ มาซักถามซ้ำๆบ่อยๆ
แน่นอนว่ามันเป็นนิสัยเเย่ๆของเราที่เเก้ไม่หาย เเละบ่อยครั้งที่เผลอเเสดงอาการเเย่ๆออกมาใส่พ่อ
ตอนทำเราไม่รู้ตัวหรอก จะมารู้สึกผิดก็ตอนที่เผลอทำไปเเล้วนั่นเเหละ เเล้วก็ขอโทษ เเน่นอนว่าพ่อก็ให้อภัยเสมอ
ล่าสุดเราก็เผลอทำกริยาเเบบนั้นใส่ท่านอีก โดยที่ครั้งนี้เกิดจากความเข้าใจผิดของเราเอง
ตัดสินคำพูดของเขาเพียงเเค่ไม่กี่คำ ใช้ความคิดของเราสรุปให้เบ็ดเสร็จว่าทำไมพ่อพูดแบบนี้ล่ะ พูดไม่ดีเลย
จากนั้นเราก็พูดแบบไม่คิดออกไปอีก เเล้วเราก็เดินหนี เเล้วท่านก็ขึ้นเสียงใส่เรา ซึ่งเราไม่ชอบให้ใครมาขึ้นเสียงดังๆใส่
เพราะกลัว กลัวจนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัวเลยก็มี
เเรกๆก็ยอมรับว่าโมโหนะ ว่าทำไมท่านถึงพูดแบบนั้น เเต่เมื่อมารู้ความหมายของสิ่งที่ท่านพูดจริงๆ มันทำให้เราโกรธตัวเองมากๆ กลายเป็นว่าเราตีความหมายของสิ่งที่ท่านจะสื่อผิด เเละพูดจาทำลายความรู้สึกท่านโดยที่ไม่คิดให้รอบคอบ เอาความรู้สึกนึกคิดของตัวเองเป็นใหญ่ในตอนนั้นทำร้ายคนใกล้ตัวจนได้
ท่านบอกว่าท่านเสียใจ ทำไมต้องพูดอย่างนั้น มองท่านเป็นคนยังไง ไม่ว่าจะทำอะไร จะพูดอะไรก็มองว่าท่านไม่ดีหมดเลยใช่มั้ย ประโยคเหล่านั้นที่ท่านพูดมันเหมือนเป็นอะไรซักอย่างที่ปลุกเราให้ตื่นจากความคิดด้านลบของเรา กลายเป็นว่่าเรารู้สึกผิดเเละโกรธตัวเองมาก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราเงียบเเละเดินหนีเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะร้องไห้ออกมา
เราร้องไห้เพราะเรารู้สึกโกรธ ใช่ โกรธตัวเอง เเละไม่เคยรู้สึกเกลียดตัวเองเท่านี้มาก่อน เราพยายามคิดว่าทำไมเราต้องพูดแบบนั้น ต้องทำกริยาแบบนั้น แน่นอนว่าเราคิดว่าเราคงเป็นลูกที่เลวมาก ไม่คิดก่อนพูดเเละครั้งนี้มันร้ายเเรงมาก
ท่านพูดมาประโยคนึงว่า “ถ้าพ่อเป็นอะไรไป ก็คงไม่รู้สึกอะไรใช่มั้ย” นี่เเหละคือสิ่งที่ทำให้เราทนไม่ได้เเละร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ถ้าเขาเป็นอะไรเราคงไม่ให้อภัยตัวเองเลย เพราะเราเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านพูดแบบนั้นออกมา
ขณะที่เราร้องไห้ หลายความคิดมันตีกันไปหมด ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ไม่รู้จะโทษสมองหรือความรู้สึกของตัวเองที่พูดอะไรแย่ๆออกไปทำร้ายจิตใจเขา เราคิดว่าเราเครียดจากเรื่องเรียนเรื่องงานหรือเปล่า เลยมาลงใส่ท่าน เมื่อคิดได้แบบนั้นเราก็ยิ่งเสียใจมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าเราจะเจออะไรมาก็แล้วเเต่ เราต้องเอาสิ่งเเย่ๆนั้นไปลงกับคนอื่นที่เขาไม่เกี่ยวด้วยหรอ
จะบอกว่าขณะที่พิมพ์อยู่ ท่านก็โทร.เข้ามาหาเรา เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย แถมยังบอกว่าเงินค่าขนมอยู่บนโต๊ะนะ เท่านั้นเเหละน้ำตาเราไหลออกมาไม่รู้ตัว มันก็ทำให้เราโกรธตัวเองทุกทีเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พ่อ?หนูขอโทษนะ
คำว่าขอโทษ เป็นสิ่งเดียวที่จะอธิบายทุกสิ่งตอนนี้ได้ เราไม่รู้จะพูดจะอธิบายอะไร นอกจากความรู้สึกผิด เเน่นอนเราว่าไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก เเม้ว่าเราอาจจะควบคุมมันไม่ได้ก็ตาม ทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้เราก็มานั่งเสียใจเองเเละรู้สึกผิดทีหลัง จบลงด้วยการที่เราขอโทษเเละท่านก็ให้อภัยตลอด
อ่านมาถึงตรงนี้เราอยากเตือนให้ทุกคนคิดก่อนที่จะพูด เพราะหากพูดไปเเล้วคนฟังรู้สึกไม่ดีหรือรู้สึกเเย่ เราอาจจะสูญเสียคนๆนั้นไปเลยก็ได้ เว้นเเต่เสียว่าเป็นคนในครอบครัว ถึงเเม้จะทะเลาะกันยังไง มันก็มีเส้นสายสัมพันธ์บางๆเกี่ยวกันไว้อยู่ เเต่อย่าคิดว่าเป็นคนในครอบครัว จะพูดจาเเย่ๆใส่ยังไงก็ได้ ยิ่งเป็นคนใกล้ชิดเนี่ยเเหละ ก็ต้องยิ่งใส่ใจกันเเละกันมากขึ้นกว่าคนอื่นๆ
สุดท้ายเราอยากจะฝากให้เรื่องของเราเป็นเครื่องเตือนใจใครหลายๆคนว่าอย่าทำนิสัยแบบนี้ใส่คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรัก ครอบครัว ทำไปก็จะมีเเต่ทำร้ายจิตใจคนอื่นเปล่าๆ เราอยากจะให้ทุกคนลองฉุกคิดก่อนจะพูด อย่าใช้อารมณ์ตัดสินเพียงเเค่ผิวเผิน หากอารมณ์เสียก็อย่าพึ่งพูดอะไร เพราะในตอนนั้นอารมณ์มันอยู่เหนือการใช้เหตุผลเสมอ อย่านำเรื่องที่เรากำลังหงุดหงิด หรือมีปัญหามาลงกับอีกฝ่ายเลย มันไม่เกิดผลดีหรอก เชื่อเรา ^_^