ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อนว่า “ความเสียใจ” คืออะไร…”ความเศร้า” เป็นแบบไหน…แต่มันเป็นสิ่งที่คุณรู้สึกได้เอง เป็นสิ่งที่คุณค้นพบมันเพียงลำพัง
ความเศร้ามันอยู่รอบตัว บางคนอกหัก บางคนสูญเสียสิ่งสำคัญ บางคนโดนตำหนิจากการทำงาน บางคนทำตามฝันได้ไม่สำเร็จ แต่สิ่งที่ต่างกันคือเลเวลของความรู้สึกของแต่ละคน
“อย่าเศร้า, หยุดร้องไห้, ไม่เป็นไรหรอก”
และคำปลอบใจอีกมากมายที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงมัน แต่มีผลการวิจัยบอกว่า “เพราะมีความเศร้า เราถึงรู้ว่าอะไรสำคัญ” ดังนั้นการผลักไสความรู้สึกนี้ไม่ใช่คำตอบ…แต่การจัดการความเศร้าต่างหากที่ควรทำ
เหมือนที่เราเคยได้ยินว่า ไม่มีความเศร้าที่สูญเปล่าบนโลกใบนี้
1. เศร้าแล้ว ต้องหยุด
หยุดทำอะไรเดิมๆ แบบที่เคยทำทุกวันอย่างวนลูป หยุดทำตัวเหมือนคนไม่มีความสุข แล้วก็เอาแต่นั่งร้องไห้ไปวันๆ ลองออกไปใช้ชีวิตใหม่ๆ ดูบ้าง อาจทำให้เราลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นได้
อาจเริ่มง่ายๆ อย่างการใช้เวลาวันหยุดนั่งทำงาน ออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านยังได้
2. เศร้าแล้ว ต้องยิ้ม
หลายคนพอกำลัง Fail หรือรู้สึกแย่ ก็จะใช้วิธีทำงานหนัก หรือจริงจังกับมันมากขึ้นจนถึงขั้นมากไปด้วยซ้ำ หยุด! และดึงตัวเองกลับมา หาอะไรสนุกๆ ทำ ในเรื่องแย่ๆ มันต้องมีเรื่องดีๆ อยู่ อย่างถ้าเกิดคุณได้งานที่ไม่ชอบ แทนที่จะคิดว่างานมันแย่ มาคิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่จะได้ท้าทายตัวเอง ยังจะแฮปปี้กว่า
แค่เปลี่ยนมุมมอง ความรู้สึกเราก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
3. เศร้าแล้ว ต้องฝัน
อีกหนี่งวิธีที่ได้ผลมากวิธีหนึ่งคือการมานั่งคิดว่าตัวเองอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร อนาคตอยากใช้ชีวิตแบบไหน อย่ามัวแต่นึกถึงความเศร้า ความเสียใจที่มีอยู่ และมองไปข้างหน้า เปลี่ยนความรู้สึกแย่ๆ เป็นแรงผลักดันให้คุณได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เป็นในสิ่งที่อยากเป็นดีกว่า
4. เศร้าแล้ว ต้องเม้าท์
คนส่วนใหญ่เวลามีปัญหาเกิดขึ้น คนแรกที่นึกถึงมักไม่ใช่คนในครอบครัว แต่กลายเป็น “เพื่อน” เสียมากกว่า เรารู้แหละว่าการออกไปเจอเพื่อน หรือโทรเพื่อระบายความเสียใจมันก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกนี้หายไปได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราจะเสียใจ “น้อยลง” มันบรรเทาให้เรารู้สึกน้อยลงได้
ยิ่งใครมีเพื่อนเรียกเสียงฮา เผลอๆ ก็ทำให้เราลืมความเศร้าไปได้พักหนึ่งเลยนะ
5. เศร้าแล้ว ต้องลอง
เชื่อว่าคุณต้องมีสิ่งที่อยากทำ แต่ยังไม่เคยได้ทำ ยังไม่ได้ลอง อะไรที่ไม่รู้จัก นี่เป็นโอกาส เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ได้ไปทำอะไรใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็ได้สลัดความเศร้าทิ้งไปด้วย ไม่แน่นะการลองทำอะไรใหม่ๆ อาจทำให้คุณได้เจอกับเส้นทางใหม่ที่ไม่คาดคิดก็ได้
6. เศร้าแล้ว ต้องออกลุย
ใช้เวลากับโลกภายนอกให้มากขึ้น การเศร้าแล้วขังตัวเองไว้ในห้องแคบๆ ไม่ใช่การจัดการตัวเองที่ดีเท่าไหร่ การออกไปข้างนอกจะทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ
หรือออกไปเดินป่า สูดอากาศธรรมชาติ ก็ช่วยได้เยอะเลยทีเดียวแหละ
7. เศร้าแล้ว ต้องฟิต
เมื่อคุณรู้สึกท้อแท้ หดหู่ เศร้า เสียใจ อะไรก็แล้วแต่ วิธีแรกที่สามารถทำได้คือ “การออกกำลังกาย” ขับเหงื่อออกจากร่างกาย ทำให้หัวใจสูบฉีดมากขึ้น เปลี่ยนโฟกัสเรื่องหัวใจไปโฟกัสที่ร่างกายแทน มันทำให้ความรู้เหล่านั้นลดลงได้
แต่ไม่ใช่ว่าต้องเล่นกีฬาหนักๆ นะ แค่ออกไปยืดเส้น พาน้องหมาไปเดินเล่นก็ช่วยได้แล้ว
8. เศร้าแล้ว ต้องติสท์
วาดภาพ ถักโครเชต์ หรือทำของ DIY อะไรก็ได้ ไม่ได้กำหนดว่าคุณต้องทำอะไร ขอแค่เป็นงานแนวสร้างสรรค์ก็ใช้ได้หมด
เชื่อไหมว่าการทำของพวกนี้ทำให้ใจเราสงบลงไปได้พักนึงเลยนะ หรืออย่างน้อยก็ทำให้เราได้ปรับโฟกัสความสนใจเราไปที่การทำสิ่งของพวกนี้แทนการมานั่งร้องไห้เสียใจ
9. เศร้าแล้ว ต้องกิน
เคยเป็นไหม เสียใจปุ๊บ นัดเพื่อนกินเหล้า ชวนกินบุฟเฟ่ต์ จัดหนักของหวาน มีผลวิจัยต่างประเทศบอกว่าการกิน ก็ส่งผลกับความรู้สึกเหมือนกันนะ นั่นแปลว่าการที่คุณเสียใจแล้วเลือกกินแต่อาหารไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำให้ความรู้สึกแย่ลง
เชื้อเพลิงที่ดีต่างหาก คือ ผู้ผลิตความรู้สึกที่ Feel Better
10. เศร้าแล้ว ต้อง “เปลี่ยน”
หรือสุดท้ายแล้วยังไม่ได้ผลสักวิธี มันอาจจะถึงจุดที่คุณต้อง “เปลี่ยน” มานั่งขบคิดอย่างจริงจัง ว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนี้ จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อก้าวต่อไปได้ยังไง การปล่อยทิ้งไว้ด้วยคำว่า “ไม่เป็นไร” ที่จริงแล้วมันคือการทับถมความรู้สึกที่มากกว่าเดิม อย่าปล่อยให้เป็นแบบนั้น
ยังมีวิธีอีกมากมายที่จะกำจัดความรู้สึกแย่ๆ เหล่านี้ ถึงบางคนอาจจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่สำหรับที่ยึดติดกับเหตุการณ์บางอย่างมากๆ ก็จะรู้สึกมากกว่าคนอื่น ทางออกที่ดีที่สุด คือการดึงตัวเองกลับมาให้ไว อย่าไปจมอยู่กับความรู้สึกไม่แน่นอนแบบนั้น
ความเศร้าไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ที่แน่ๆก็ไม่ใช่เรื่องดี สำหรับคนที่ไม่รู้วิธีจัดการมัน