ต้องยอมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เราต่างต้องเผชิญปัญหากับความเครียดมากเพียงใด ทั้งจากการทำงาน การใช้ชีวิตที่ดิ้นรนแข่งขัน สภาพแวดล้อม หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่รอบกายทุกปัจจัยสามารถกระตุ้นให้เกิดความเครียดทุกเวลา และหากเราไม่รู้จักวิธีในการป้องกันหรือขจัดแล้วล่ะก็ รับรองว่าผลเสียที่ตามมาจะเกิดขึ้นต่อทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอนค่ะ
และหากคุณเป็นคนที่ชอบเก็บเรื่องต่างๆ เอาไว้ในใจ และไม่เคยได้ปลดปล่อยมันออกมาเลยล่ะก็ เชื่อว่าชีวิตของคุณจะไม่พบกับความสุขแบบที่ควรจะเป็นอย่างแน่นอน เมื่อรู้แบบนี้แล้วเราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักคำว่า “ปล่อยวาง” กันดูค่ะ เพราะการรู้จักปล่อยวางเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต หากเราเครียด เรากดดันตัวเราเอง หรือแม้แต่คอยจะเก็บความผิดพลาดเก่าๆ มาย้ำ ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข วันนี้เราจึงมีวิธีดีๆ ที่เมื่อคุณได้ปล่อยวางทิ้งไปได้แล้ว จะช่วยให้ชีวิตคุณมีความสุขและความหมายมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ
>> พยายามคิดให้ได้ว่า “ไม่มีอะไรยั่งยืน” <<
ลองคิดทบทวนดูดีๆ นะคะ ว่าตอนนี้เรากำลังยึดติดอยู่กับสิ่งของนอกกาย อยู่หรือเปล่า และเมื่อใดก็ตามที่เรายึดติดกับอะไรมากๆ ความเจ็บ ความผิดหวัง ก็มักจะมาหาเราได้ง่ายขึ้นค่ะ นั่นเพราะถ้าเรายึดติดกับอะไรเราก็มักจะกลัวว่าของสิ่งนั้นจะหายไป สิ่งนั้นจะพัง กลัวใครจะมาขโมย เอาเป็นว่าเลิกยึดติดและคิดเสียว่าไม่มีอะไรแน่นอน ทุกสิ่งบนโลกย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และเวลา ทั้งความสุขและความทุกข์ก็ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดเช่นเดียวกัน ทุกอย่างผ่านมาแล้วก็มีวันผ่านไป ถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้ได้ เราจะมีสติมากขึ้น เมื่อเกิดอำรขึ้นแล้วเราพจะไม่ทุกข์ เพราะเราปล่อยวางว่ามันไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไปยังไงล่ะคะ
>> เว้นพื้นที่เอาไว้ให้ความผิดพลาดบ้าง <<
คนเรามักจะชอบคิดว่า ความเศร้า ความกลัว ความผิด เป็นสิ่งไม่ดี และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา แต่ต้องไม่ลืมนะคะว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่เพอร์เฟคไปเสียทุกอย่าง ไม่มีใครไม่เคยทำอะไรผิดพลาด ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยกลัวกับอะไรเลย เราเองเป็นแค่เพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึงที่มีความรู้สึก ดังนั้น จงเอาความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆ เหล่านั้นเปผ้นบทเรียนเพื่อให้เราได้พัฒนาตัวเองต่อไป อย่าไปเครียดว่าทำไมเราต้องผิด ทำไมเราต้องกลัว ไม่ต้องผลักไสอาการเหล่านี้ไปหรอกค่ะ รับมันเอาไว้แต่รู้จักวางมันให้ถูกที่ถูกทาง สิ่งเหล่านี้บางทีอาจมีประโยชน์และทำให้เรามีความสุขมากขึ้นก็ได้ถ้าเรารู้จักปล่อยวาง
>> ตั้งใจพูดคุยกับทุกคนอย่างตรงไปตรงมา <<
ข้อนี้เป็นการบอกให้เราลองเลิกพูดคุยแต่เรื่องสัพเพเหระดูค่ะ เช่น บางทีมีคนถามเราว่าสบายดีหรือเปล่า แทนที่เราจะตอบไปอย่างงั้นว่า สบายดี ให้ลองเปลี่ยนจากคำตอบสำเร็จรูปแบบนั้นมาเปผ้นการตั้งใจตอบคำถามและพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา และแสดงออกถึงความใส่ใจในคำถามนั้นดู แม้ว่าคนที่ถามหรือคนที่คุยด้วยจะไม่ใช่เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน ซึ่งการตอบด้วยความจริงจังและจริงใจนี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นในการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น และทำให้การสนทนานั้นมีความหมายมากขึ้นการเลิกคุยทักทายด้วยเรื่องสัพเพเหระแม้แต่กับคนแปลกหน้า ก็อาจทำให้ชีวิตและความสัมพันธ์ของคุณมีคุณค่ายิ่งขึ้นได้ ยิ่งเมื่อคุณเปิดใจอย่างแท้จริง ทุกคนจะเริ่มสัมผัสได้และอยากใกล้ชิดคุณมากขึ้น
>> ปลดปล่อยความจริงทุกอย่างออกมา <<
บางคนอาจสร้างกำแพงขึ้นมาระหว่างตัวเองกับคนรอบข้าง ซึ่งกำแพงดังกล่าวอาจเป็นเรื่องของงการเปิดเผยความจริงบางอย่างในตัวเอง หรือแม้แต่การพูดความจริงออกไปให้อีกฝ่ายได้รู้ บางครั้งก็ทำให้อึดอัดใจมากเหมือนกันนะคะ เพราะคุณอาจคุณอาจมีความจริงบางอย่างซ่อนอยู่ในส่วนลึกภายใน ความจริงที่คุณยังเคยได้บอกกับใคร ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน ซึ่งการพูดความจริงออกมานี่แหละค่ะจะช่วยลดกำแพงระหว่างคุณกับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี เมื่อเราไม่กลัวที่จะเผยความจริงออกไปเราจะกล้าพูด กล้าคิด กล้าทำมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสื่อสารที่ดีและพาให้ชีวิตดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
>> บันทึกเรื่องราวดีๆ ที่เราเคยทำ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ <<
การจดบันทึกเรื่องงราว และความทรงจำดีๆ ที่เราเคยทำ เป็นการปล่อยวางที่ดีเลยนะคะ มันจะทำให้เราคลายเครียดไปได้ เพราะทุกครั้งที่เราเครียด วิตกกังวล หมดพลัง ไม่มีแรงจะทำอะไรต่อ หรือจมอยู่กับสถานการณ์แย่ๆ อยู่ล่ะก็ ให้นึกถึงเรื่องราวที่เราจดเอาไว้ในช่วงเวลาต่างๆ ก็จะช่วยให้เราพอใจในตัวเองขึ้นมาได้ อีกอย่าจะทำให้เรามองเห็นคุณค่าในตัวเอง และมีความพร้อมในการจัดการกับเรื่องราวแย่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้ค่ะ
>> ตัวเราคือผู้ควบคุมสถานการณ์ตรงหน้า <<
เราสามารถควบคุมทุกอย่างโดยเฉพาะร่างกายได้ หรือแม้แต่อารมณ์ของเราเองก็ตาม เราก็เป็นผู้ควบคุมมันได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีเรื่องหรือมีปัญหา เราสามารถเลือกให้ตัวเองรู้สึกอย่างไรก็ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เช่น เราจะควบคุมอารมณ์ให้ขำกับเหตุการณ์ ให้กลัวเหตุการร์ ให้เศร้าไปกับเหตุการณ์ หรือให้เผชิญกับเหตุกาณ์แบบไม่ต้องเกรงกลังสิ่งใดเลยก็ได้ แทนที่เราจะเอาสิ่งที่เจอมาคิดให้เป็นปัญหา เราก็เลือกที่จะปฏิเสธอารมณ์นั้น เพียงเท่านี้เราก็ไม่เครียดแล้วค่ะ
>> เลิกเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น <<
การจะใช้ชีวิตย่างมีความสุขได้ เราต้องหมั่นฝึกตัวเองให้คิดดี ทำดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้คุณมีพลังที่จะดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต หากเราโกรธ หรือแค้นใคร สิ่งที่ควรทำได้ดีที่สุดคือ “ให้อภัย” สิ่งนี้จะเปลี่ยนความโกรธ ความเคียดแค้นให้กลายเป็นความคิดด้านบวกได้ อย่าคิดแค้นใครเลยค่ะ เพราะหากคิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เอาเป็นว่าสวดมนต์แผ่เมตตาให้เค้าไปเลยก็ดีค่ะ จะทำให้เราควบคุมอารมณ์โกรธไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรกได้ ไม่เชื่อลองทำดู
ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เอามาฝาก เพื่อให้ทุกคนรู้จักปล่อยวางดูนะคะ อย่าลืมว่าเมื่อเรารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังทำให้เรารู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกเครียด ก็ลองไม่คิดอะไรแย่ๆ วางมันลง ชีวิตเรามีอะไรให้ทำอีกมากมายกว่าเอาเวลามาเครียดกับสิ่งผิดพลาดที่อาจส่งผลทำให้คุณท้อถอย ดังนั้น ลองมองข้ามสิ่งผิดพลาดเหล่านั้นไปและขอบคุณสิ่งดีๆ ที่ยังเหลืออยู่ด้วยการ “ปล่อยวาง” ดีกว่าค่ะ