หากไม่มีการค้นพบคงไม่มีใครรู้ว่าใต้ทะเลนอกจากปลาและปะการังแล้วยังมีสิ่งต่างๆ ซ่อนอยู่อีกมากมาย วันนี้เราจะพาไปดู 11 การค้นพบใต้ทะเลที่พิสูจน์ให้เห็นว่า มหาสมุทรยังมีสิ่งลึกลับซ่อนอยู่อีกมาก ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
1. แม่น้ำใต้ทะเล
ฟังดูแปลกแต่มีอยู่จริง ในอุทยาน Cenote Angelita ในประเทศเม็กซิโก นักดำน้ำพบแหล่งน้ำอีกแห่งหนึ่งใต้ทะเล ลักษณะบริเวณดังกล่าวเป็นถ้ำในแนวดิ่ง ที่มีน้ำท่วมขังเมื่อดำน้ำลงไปลึกกว่า 30 เมตร ภาพที่ปรากฏให้เห็นนั้นช่างประหลาด เมื่อพบว่าพื้นเบื้องล่างมีกิ่งไม้ ใบไม้ เหมือนเป็นพื้นป่า และปรากฏร่องคล้ายแม่น้ำสีขุ่นมัว แยกตัวออกจากน้ำใสสะอาดทับอยู่เบื้องบน คล้ายแหล่งน้ำอีกแห่งหนึ่งใต้ทะเล โดยแท้จริงแล้ว สิ่งที่เห็นเหมือนแม่น้ำเบื้องล่างคือ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่มีอันตรายถึงชีวิตถ้าสูดดมเข้าไป มันเกิดจากการทับถม ผุพังของเศษซากพืชซากสัตว์ ที่ถูกแบคทีเรียย่อยสลายซัลไฟต์ในสารอนินทรีย์ในสภาวะขาดออกซิเจน ชั้นก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ จะมีปรากฏที่ระดับความลึก 30 เมตร แบ่งระหว่างน้ำจืดด้านบน และ น้ำเค็มเบื้องล่าง ส่วนถ้ำนี้มีความลึกประมาณ 57.6 เมตร หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าเป็น ก๊าซ ทำไมมันไม่ลอยขึ้นข้างบน เนื่องจากก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ มีค่าความถ่วงจำเฉพาะอยู่ที่ 1.363 ซึ่งหนักกว่าน้ำแต่เบากว่าน้ำเค็มทำให้มันปรากฏเป็นชั้นๆ นั่นเอง
2. สุสานเรือเดินสมุทร
บริเวณหมู่เกาะชุกลากูน ในประเทศไมโครนีเซีย บริเวณดังกล่าวกลายเป็นสุสานใต้ทะเลของบรรดาเรือรบ ที่ถูกโจมตีในช่วงสงครามโลก โครงกระดูกของผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังคงอยู่บริเวณนั้น คาดว่ามีเรือรบประมาณ 40 ลำจมอยู่ ณ ที่แห่งนี้
3. อนุสาวรีย์ใต้น้ำ
อนุสาวรีย์โยนากุนิ หรือที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันในชื่อ พิระมิดใต้น้ำ ตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของเกาะริวกิวในประเทศญี่ปุ่น อยู่ลึกจากผิวน้ำลงไป 25 เมตร นักโบราณคดีเชื่อว่า อนุสาวรีย์โยนากุนิ มีอายุประมาณ 5,000 ปี
4. นครใต้น้ำ
ซากเมืองเฮราคลิออน (Heracleion) เมืองที่จมลงใต้มหาสมุทรเมดิเตอเรเนียน เมื่อประมาณ 1,600 ปีก่อน พบทั้งโบราณสถาน และโบราณวัตถุจำนวนมาก จากการศึกษาของนักโบราณคดีเชื่อว่า สาเหตุที่เมืองจมลงใต้มหาสมุทรเป็นเพราะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ทำให้เมืองทั้งหมดจมสู่ใต้ท้องทะเล
5. ซากเรือล่มในสมัยสงครามโลก
ซากเรือ SS Thistlegorm เรือรบสัญชาติอังกฤษที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อประมาณ 70 ปีก่อน ถูกค้นพบโดยนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง บริเวณทะเลแดง ประเทศอียิปต์ ซึ่งเรือดังกล่าวบรรทุก ยานพาหนะต่างๆจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือจักรยานยนต์
6. ซากเรือไททานิก
หลังจากเรือไททานิกเกิดอุบัติเหตุชนกับภูเขาน้ำแข็ง ในปี 1912 จากนั้นซากเรือได้จมสู่ท้องทะเล มีความพยายามค้นหาซากเรือจากหลายฝ่ายตลอดเวลาที่ผ่านมาแต่ก็ไม่พบ จนเวลาผ่านไป 75 ปี จึงมีการค้นพบซากเรือเมื่อปี คศ. 1987 โดยพบซากเรือนอนสงบนิ่งอยู่ที่พื้นมหาสมุทรปรากฏร่องรอยแตกที่เป็นที่มาของโศกนาฏกรรมความรักก้องโลกอย่างชัดเจน
7. สุสานรถบรรทุก
MS ZENOBIA จริงๆ แล้วเป็นชื่อเรือโดยสารข้ามฟาก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เรือล่มในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในเดือน มิถุนายนปี 1980 หลายคนจึงเรียกว่า ‘สุสานรถบรรทุก’ เพราะบริเวณซากเรือ มีรถบรรทุกหลายคันจมอยู่ด้วย ปัจจุบันอนุญาติให้นักท่องเที่ยว ดำน้ำลงไปชมซากเรือได้
8. เมืองโจรสลัด
Port Royal ประเทศ จาไมก้า เมืองที่บรรดาโจรสลัดนิยมมาพักเรือ,ค้างแรม เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุมากมาย จึงถูกเรียกว่า ‘เมืองโจรสลัด’ แต่แล้วในปี 1962 เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้เมืองทั้งหมด จมลงใต้มหาสมุทรไปตลอดกาล
9. แท่นหินใต้ทะเล
ใต้ทะเลสาบมิชิแกน สหรัฐอเมริกา มีการค้นพบแท่นหินลักษณะคล้ายกับสโตนเฮนจ์ ที่ประเทศอังกฤษ โดยแท่นหินมีลักษณะตั้งตรงเป็นจำนวนมาก บริเวณดังกล่าวยังพบภาพเขียนสลักหิน รูปช้างแมมมอธ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าหินดังกล่าวน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 9,000 ปี
10. ซากเรือโบราณเก่าแก่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
กว่าพันปีที่ผ่านมา ตำนานอันเป็นปริศนา และสุดยอดจุดมุ่งหมายของนักล่าสมบัติ คือเรื่องเล่าของพ่อค้าเรือโบราณ ที่เรือของเขาจมลงพร้อมด้วยอัญมณีและเครื่องปั้นดินเผามูลค่ามหาศาล ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และในที่สุดในปี 2014 นักดำน้ำนอกชายฝั่งของมอลตา พบซากเรืออับปาง ที่เต็มไปด้วยเครื่องใช้โบราณ ทอง และสมบัติต่างๆ ที่ยังคงสภาพเหมือนเดิมทุกประการ คาดว่ามันคือเรือปริศนาลำนั้นนั่นเอง
11. ซากเครื่องยนต์อะพอลโล 11
หนึ่งในชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนกระสวยอวกาศอะพอลโล 11 ขึ้นสู่ดวงจันทร์ ได้ถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ใต้ท้องมหาสมุทรแอตแลนติกในระดับความลึกประมาณ 14,000 ฟุต หรือราว 4,300 เมตร นำโดยทีมนักวิจัยที่ได้รับทุน จาก เจฟ เบซอส บอสใหญ่เว็บอเมซอน