อาบน้ำใหม่ๆ อย่างหอม เจออากาศเมืองไทยด้านนอกไม่ถึงสิบนาที ก็รักแร้เปียกเป็นวงอย่างที่เห็น สาวเจ้าอย่างเราก็หมดความมั่นใจไปสิ ยิ่งโดยสารรถสาธารณะ ต้องยกไม้ยกมือจับเสาเกาะห่วง ก็ยิ่งทรมานเหลือเกิน Gangbeauty เชื่อว่าเธออาจจะกำลังมองหาวิธีแก้ไขกลิ่นไม่พึงประสงค์เช่นนี้อยู่ แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเรารู้สาเหตุแล้วป้องกันไม่ให้มันเกิดตั้งแต่แรก ออกจากห้องน้ำ หอมยังไง ก็ไปถึงที่ทำงานได้หอมยังงั้น!
1. ต่อมเหงื่อผู้หญิงเหม็นอยู่แล้วเป็นปกติ
ร่างกายเรามีต่อมเหงื่ออยู่ 2 แบบ คือเหม็น และไม่เหม็น โดยต่อมเหม็นนั้นจะอยู่ตรงแถวๆ รักแร้ ขาหนีบ ก้น แผ่นหลัง ซึ่งเป็นเหงื่อที่เหนียว แต่มีสีใส เหตุผลที่เหม็น นั่นก็เพราะว่าเจ้าต่อมเหม็นพวกนี้ มีส่วนผสมของไขมันอยู่เยอะมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว เพศหญิงมีต่อมเหงื่อมากกว่าเพศชายซะอีก เพียงแต่ทำหน้าที่ขับเหงื่อน้อยกว่าเท่านั้น วิธีการเช็กตัวเองว่าเป็นคนมีกลิ่นตัวติดตัวมาตั้งแต่ภายในร่างกายแล้วหรือไม่นั้น เพียงแค่เธอลองสังเกตดูขี้หูของตัวเองดู หากเป็นสีคล้ำ แถมยังเหนียวและเปียก นั่นหมายความว่าเหงื่อจากต่อมเหม็นของเธอมีกลิ่น และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอมีกลิ่นตัวมากไปด้วยนั่นเอง
2. อาหารที่กิน
www.flickr.com
แขกและอาบังมีกลิ่นตัวแรงใช่มั้ย นั่นก็เพราะพวกเขาบริโภคเครื่องเทศเข้าไป ซึ่งไม่ใช่แค่เครื่องเทศที่ทำให้เรามีกลิ่นตัวนะ แต่อาหารบางอย่างที่มีสารโคลีนสูงๆ ก็ทำให้มีกลิ่นตัวด้วยเหมือนกัน เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ พืชประเภทถั่ว แฮม และอื่นๆ อีกมากมาย อาหารรสจัดก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ และทั้งหมดนี้ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ต่อมเหงื่อขับไขมันออกมามากขึ้นนั่นเอง ที่สำคัญคือเป็นต้นเหตุให้เกิดสารตกค้างในลำไส้ด้วย กลิ่นตัวแต่ละคนเลยไม่เหมือนกัน เหม็นมาก เหม็นน้อย ขึ้นอยู่กับอาหารการกินนี่ล่ะ
3. สะอาดเกินไป
การทำความสะอาด ชำระล้างร่างกายด้วยการล้างๆ ขัดๆ ถูๆ มากเกินไปก็ทำให้มีกลิ่นตัวได้เหมือนกัน อย่าลืมว่าผิวเนื้อของเราไม่ใช่โลหะแบบตะเกียงวิเศษที่โดนถูเยอะแล้วจะไม่ถลอก ยิ่งใช้เป็นสบู่ฆ่าแบคทีเรีย สครับต่างๆ ผิวก็จะยิ่งแห้ง เมื่อผิวของเราแห้ง ต่อมเหงื่อก็จะรีบเร่งพลังเครื่องสูบ ปล่อยเหงื่อออกมาสู้ ปกป้องผิวของเธอไม่ให้อยู่ในสภาพแห้งแตกและขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง
4. อารมณ์ไม่ดี
pixabay.com
ยายป้าขี้วีนมีแนวโน้มกลิ่นตัวแรงกว่านางเอกจอมนิ่ง นั่นเลยอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นางเอกมีความน่าเข้าใกล้มากกว่านางร้ายด้วยล่ะมั้ง ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ ความเครียด ความกังวล ก็ทำให้เธอมีเหงื่อออกเยอะมากไปด้วย ทันทีที่เหงื่อปกคลุมร่างกายของเราเยอะ กลิ่นก็ตามมาแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ
5. พันธุกรรม หรือร่างกายผิดปกติ
กลิ่นตัวไม่ได้เกิดจากแค่ว่าเราสกปรก หรือไม่สกปรก อย่างที่กล่าวไปแล้วแต่ต้นว่าสะอาดเกินไปก็มีกลิ่นตัวได้เหมือนกัน ดังนั้นในบางครั้ง กลิ่นตัวก็อาจเป็นตัวชี้วัดได้ด้วยว่าเธอเป็นโรคอะไรสักอย่าง เช่น ระบบเผาผลาญบกพร่อง ระบบย่อยของเอนไซม์ผิดปกติ ร่างกายก็เลยสร้างเคมีบางอย่างที่มีกลิ่นแล้วขับมันออกมาพร้อมกันกับเหงื่อของเรานั่นเอง โรคบางอย่างก็ด้วยนะ เช่นหัวใจ ตับ ไต วัณโรค คอหอยพอก ไทรอยด์ วัยใกล้จะทองก็เป็นไปได้
6. ยาบางชนิด
pxhere.com
เพราะยาก็คือสารเคมี แต่เป็นสารเคมีบำบัด มันก็เลยดีต่อโรค แต่ก็อาจจะมีผลคือทำให้เกิดกลิ่นไม่ดีในตัวเรา จากนั้นก็ขับออกมาพร้อมกันกับเหงื่อ เช่น ยารักษาสิวทั่วๆ ไปที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ซึ่งจะมีผลข้างเคียงคือทำให้เกิดกลิ่นตัว ฉะนั้นถ้ามีความกังวล ก็ลองปรึกษาหมอหรือถามเภสัชดูก่อนก็ได้จ้ะ
7. เสื้อผ้า และอากาศ
www.pexels.com
สังเกตว่าถ้าผ้าเนื้อหนาๆ ยิ่งเป็นใยสังเคราะห์ ก็จะยิ่งทำให้เราร้อนกว่าปกติ แถมเหงื่อยังพรั่งพรูหนักกว่าเก่า เพราะมันระบายความร้อนได้ช้า เกิดเป็นความอับชื้น กลิ่นก็เลยเหม็นคลุ้งไปหมด บวกกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทยที่ทำให้แบคทีเรียเติบโตไวติดจรวด ทำให้กลิ่นตัวออกเยอะ ต่อให้ฉีดน้ำหอมก็ดับไม่ลงแน่ๆ
รู้สาเหตุแล้วก็ลองปรับกับชีวิตของเธอดู ป้องกันมันง่ายกว่าแก้ไขอยู่แล้ว!