ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน แน่นอนว่าพวกคราบเหงื่อคราบไคลของเรามันต้องมี แต่ถ้าเธอมีมากกว่าคนอื่นล่ะ เช่นว่า ไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ได้โดนแดด ไม่ได้รู้สึกร้อน ไม่เครียด ไม่กังวล แต่มือเท้ายังเปียกจนต้องคอยเช็ด Gangbeauty ว่ามันไม่ใช่ปกติแล้วล่ะ เธอว่าจริงมั้ยล่ะ
โดยในทางการแพทย์จะเรียกอาการนี้ว่า “ไพรแมรี ไฮเปอร์ไฮโดรซิส” (Primary hyperhidrosis) ซึ่งเป็นภาวะของการป่วยที่ยังไม่รู้สาเหตุนั่นเอง แพทย์บางท่านก็กล่าวว่าอาจเกิดจากประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมเกี่ยวกับเหงื่อที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ทำงานเกิดปกติ แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้อยู่ดี แต่การเหงื่อออกแบบนี้ ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคร้ายที่แฝงในตัวเธอได้เหมือนกัน
1. โรคเครียด ลักษณะของเหงื่อตามอาการของโรคเครียด คือเหงื่อจะออกมากบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า หน้าผาก อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วและรัวมาก มือสั่น รู้สึกสั่นไปหมดโดยไม่มีสาเหตุ
2. ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือคอพอก โดยตามอาการของโรคนี้ เหงื่อจะซึมทั่วตัว และหนักมากตรงบริเวณฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง อาจมีอาการหงุดหงิด มือสั่น ขี้ตกใจ ตาโปน ผมร่วง และหิวน้ำบ่อยเป็นพิเศษ
3. วัณโรค สัญญาณของเหงื่อที่จะเตือนว่าเป็นโรคนี้ คือการที่มีเหงื่อออกมากในตอนกลางคืน สลับกับการไอเรื้อรัง ไอไม่หาย แม้จะกินยา หรือจิบยาน้ำก็ไม่หาย
4. โรคเบาหวาน เหงื่อจะซึมไปหมด ทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะตรงฝ่ามือ ฝ่าเท้า มีอาการใจสั่นร่วมด้วย อีกทั้งยังรู้สึกเหนื่อยหอบ หวิวๆ ตัวเบาๆ คล้ายจะเป็นลม
5. โรคหัวใจ เหงื่อจะเยอะ และหัวใจจะสั่น ออกกำลังกายก็จะเหนื่อยหอบง่าย ยิ่งถ้าออกกำลังกายแล้วแน่นหน้าอก เหงื่อออกตามนิ้วมือนิ้วเท้าทุกครั้ง เธอถือเป็นคนที่เข้าข่ายเสี่ยงต่อโรคหัวใจมาก
6. ภาวะใกล้หมดประจำเดือน หรือที่หลายคนเรียกกันว่าวัยทองนั่นเอง อาการเหงื่อของคนใกล้หมดประจำเดือน คือมีเหงื่อออกมากในเวลากลางคืน เพราะสมองหลั่งฮอร์โมนเพศหญิงน้อยลงนั่นเอง
แต่ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจมาก เพราะนอกจากเหงื่อ ก็ต้องดูอาการอื่นร่วมด้วยอีกหลายอย่าง ถึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นนะจ๊ะ ซึ่งไอ้อาการเหงื่อแตกเป็นน้ำป่า มีโอกาสเป็นได้ทุกคน ทุกเพศทุกวัย และถ้าไม่ได้มีอาการอื่นร่วม ก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย แต่ถ้าสมมติว่าเธอยังกังวล ก็สามารถไปพบหมอ เพื่อขอตรวจเป็นพิเศษได้นะ ไม่ต้องรอป่วยก็ไปหาหมอได้รู้เปล่า!
ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสม่ำเสมอ โรคภัยก็ไม่ถามหา!